เมื่อ‘เอไอ’ขายเก่งได้ไม่แพ้คน

เมื่อ‘เอไอ’ขายเก่งได้ไม่แพ้คน

เอไอสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าจากข้อมูลเดิมได้ว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะสั่งซื้อสินค้า คลิกอ่านคอนเทนท์ หรือตัดสินใจเลิกรับข่าวสารเป็นอัตราส่วนเท่าใด เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับแนวทางการสื่อสารให้เข้าเป้ามากยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้หากพูดถึง “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ “เอไอ” จะนึกถึงอะไรกันบ้าง? บางคนอาจจะนึกถึงผู้ช่วยส่วนตัวในสมาร์ทโฟนที่พูดโต้ตอบกับเราได้ บ้างก็อาจจะเห็นภาพหุ่นยนต์ที่เก่งเหมือนมนุษย์จากที่เคยพบเห็นในภาพยนต์ต่างๆ

แต่ในชีวิตจริง เอไอได้แทรกซึมเข้ามาอยู่เบื้องหลังระบบและกลไกจำนวนมากในชีวิตประจำวัน โดยที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าจะสามารถเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในสายงานของตนเองได้และหนึ่งในสายงานที่เข้าข่ายนี้ก็คือ “งานขายและการตลาด” นั่นเอง

ปัจจุบัน พบว่าโซลูชั่นประเภทการตลาดแบบอัตโนมัติ หรือ "มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชั่น (marketing automation) เริ่มถูกนำมาใช้เป็นที่แพร่หลายอยู่พอสมควร การนำเอไอมาปรับใช้งานอย่างเต็มรูปแบบจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของนักการตลาดขึ้นไปอีกระดับ 

จนสามารถบรรลุหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของการตลาดนั่นก็คือ “relevance at scale” หรือการเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากด้วยแคมเปญที่ปรับแต่งมาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายโดยละเอียดถึงระดับตัวต่อตัว ด้วยการนำข้อมูลที่มีอยู่แล้วในมือมาวิเคราะห์ในเชิงลึก ลดความไม่แน่นอนในการวางกลยุทธ์ และเลือกกลุ่มเป้าหมาย

จากเดิมที่การสื่อสารกับลูกค้าอาจต้องอาศัยการลองผิดลองถูกเพื่อจับคู่ทั้งคอนเทนท์ ช่องทาง และกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกัน เอไอสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าจากข้อมูลเดิมได้ว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะสั่งซื้อสินค้า คลิกอ่านคอนเทนท์ หรือตัดสินใจเลิกรับข่าวสารเป็นอัตราส่วนเท่าใด เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับแนวทางการสื่อสารให้เข้าเป้ามากยิ่งขึ้น และออกแบบ ส่วนทีมงานฝ่ายขายก็สามารถใช้ เอไอ ประเมินโอกาสในการเลือกติดต่อประสานงานกับลูกค้าในแบบที่ถูกจังหวะ ถูกช่องทาง เพื่อให้ปิดดีลได้ตามเป้าหมาย

เท่านั้นยังไม่พอ ระบบเอไอนักขายยังสามารถช่วยอ่านอีเมล โน้ต หรือแม้แต่เสียงพูดที่บันทึกไว้กันลืม เพื่อนำมาเปลี่ยนเป็นรายการในระบบ เช่น การเพิ่มยอดสั่งซื้อหรือเปลี่ยนเงื่อนไขชำระเงิน หรือแม้แต่ติดตามความคืบหน้าของทุกคนในทีม เพื่อเสริมระบบงานให้คล่องตัวและไม่ตกหล่น เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวเพิ่มมาอีกคน

ประสิทธิภาพของเอไอ ในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาลในพริบตายังช่วยให้ระบบสามารถให้คำแนะนำในการวางแผนสื่อสารกับลูกค้าในทุกขั้นตอน โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นจริง ก่อนจะนำเสนอตัวเลือกที่น่าสนใจในแต่ละสถานการณ์ 

นับตั้งแต่การเชิญชวนให้เข้ามาเลือกชมสินค้า ไปจนถึงการกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำหรือเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อ ผ่านทางการแนะนำสินค้าและบริการเพิ่มเติมตามความสนใจของลูกค้ารายนั้นๆ และเมื่อขายสินค้าไปแล้ว เอไอก็ยังสามารถช่วยติดตามเสียงตอบรับจากฐานลูกค้าได้อย่างแม่นยำกว่าที่เคย จดจำสินค้าได้แม้ลูกค้าถ่ายภาพแชร์แต่ไม่พูดชื่อรุ่นหรือแบรนด์

ตัวช่วยชั้นดีทั้งหมดดังกล่าวนี้ ธุรกิจทุกระดับสามารถนำมาใช้งานได้โดยไม่ต้องมีทีมโปรแกรมเมอร์หรือนักสถิติอยู่หลังบ้าน แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า เอไอก็คือวิสัยทัศน์ทางธุรกิจในองค์กรของ ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะถ้าตีโจทย์ไม่แตก ระบบเอไอที่ได้ไปอาจจะออกไปในทาง “artificial” มากกว่า “intelligence”