แนะ 'กกต.' เตรียมแก้ปัญหาแย่งที่ติดป้ายหาเสียง

แนะ 'กกต.' เตรียมแก้ปัญหาแย่งที่ติดป้ายหาเสียง

ชาติไทยพัฒนา ชู "กัญจนา" เป็นนายกฯชื่อเดียว ส่งสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 67 รายชื่อ เตือนผู้สมัคร-พรรคการเมืองยื่นจองสิทธิหาเสียงผ่านวิทยุ-ทีวี พ้นจาก 8 ก.พ. เสียสิทธิทันที พร้อมแนะกกต.เตรียมมาตรการรับมือแย่งพื้นที่ติดป้ายหาเสียง

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.62 เวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต,) นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคและพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ได้เดินทางมายังสำนังานกกต.เพื่อยื่นสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายนิกร กล่าวว่า พรรคได้เตรียมเอกสารส่งสมัครแบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 67 คน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 80 รายชื่อ แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสารโดยเฉพาะรายการเสียภาษีย้อนหลัง ในส่วนของการสมัครแบบแบ่งเขตมั่นใจว่าส่งสมัครมากกว่า 300 เขตแน่นอน และเป็นครั้งแรกที่ส่งสมัครในกทม.ครบ 30 เต็มพื้นที่ อย่างไรก็ตามในวันนี้นอกจากการยื่นสมัครแบบบัญชีรายชื่อแล้ว พรรคจะเสนอชื่อน.ส.กัญจนา ศิลปะอาชา หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว ส่วนนายวราวุธ พล.อ.สนธิ และนายธีระ วงศ์สมุทร จะอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ทั้งหมด

นายนิกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้พรรคจะยื่นหนังสือขอใช้สิทธิใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ ตามระเบียบของกกต. รวมถึงได้ประสานให้ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตไปยื่นจองสิทธิ เพราะหากพ้นกำหนดในวันที่ 8 ก.พ.ก็จะเสียสิทธิทันที ส่วนการประชันนโยบายของพรรคการเมืองที่กกต.เป็นเจ้าภาพพรรคมีมติส่งนายวราวุธ ร่วมดีเบตนโยบายโดยคาดว่าพรรคจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพรรคการเมืองที่ส่งสมัครมากกว่า 300 เขตขึ้นไป ส่วนการดีเบตในเวทีอื่นๆจะพิจารณาตามคามเหมาะสม ย่างไรก็ตาม ตนยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดและระเบียบเรื่องการติดป้ายโปสเตอร์หาเสียง เพราะผู้สมัครจำนวนมากแต่มีพื้นที่จำกัดอาจไม่พอวางป้าย ยกตัวอย่างระเบียบที่ให้มีโปสเตอร์ได้ 2 เท่า ของหน่วยเลือกตั้ง ถ้า 1 พื้นที่มี 200 หน่วย เท่ากับมีโปสเตอร์ได้ 2,000 แผ่น หลังจากนี้อาจจะเกิดปัญหาแย่งที่ติดป้าย จึงอยากให้กกต.เตรียมแผนมาตรการรองรับไว้ด้วย ส่วนประเด็นเรื่องรถหาเสียงไม่จำกัดจำนวน แต่จำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย พรรคได้ส่งหนังสือถามกกต.เรื่องการเปิดเพลงหาเสียง แม้จะไม่ใช้ศิลปิน แต่การเปิดเพลงจะถูกตีความว่าเป็นงานบันเทิงหรือไม่ ซึ่งกกต.ให้คำตอบชัดเจนว่าทำได้ ส่วนตัวมองว่า เมื่อกกต.ออกระเบียบมาแบบนี้ ก็ต้องเหนื่อยกับการตอบคำถาม

"การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคชูจุดแข็งในนโยบายที่ตรงตามเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ครู การศึกษา และการพัฒนาเมือง โดยจะใช้สุพรรณบุรีโมเดลเป็นต้นแบบ นอกจากนี้ยังมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความขัดแย้งสูงอาจมีการทะเลาะกันบนเวที พรรคชาติไทยพัฒนาจะยืนรออยู่บนที่เย็นๆเสนอให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามให้พ้นความขัดแย้ง" นายนิกรกล่าว