"สุวัจน์-วรรณรัตน์" ตอบรับ นั่ง บช.แคนนิเดต นายกฯ
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก รองหัวหน้า ,นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค, นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ผู้อำนวยการพรรค เข้าเชิญ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค ให้อยู่ในบัญชีรายชื่อบุคคลที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 ลำดับที่ 1 และ 2 หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ลงมติเห็นชอบให้เสนอชื่อจำนวน 3 รายชื่อ ซึ่งรวมถึง นายเทวัญ จะอยู่ในบัญชีนายกฯ ลำดับที่ 3 ด้วย
โดยนายสุวัจน์ กล่าวตอบรับการเสนอชื่อในบัญชีแคนนิเดตนายกฯ ของพรรคชาติพัฒนา ตามมติของพรรค ทั้ง 3 รายชื่อ พร้อมระบุว่าพรรคตั้งใจทำงานการเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และแสดงความพร้อมด้านบุคลากรของพรรคต่อการทำงานการเมืองภายใต้กติกาการเลือกตั้งกำหนดไว้ ให้การเลือกตั้งยอมรับและทำงานให้ประชาชนเพื่อเป็นทางออกให้ประเทศไทย และไร้ปัญหา ส่วนผลทางการเมืองตามการเสนอชื่อนั้น ตนยังวิเคราะห์และประเมินได้ยาก ทั้งนี้พรรคจะยื่นบัญชีนายกฯ ต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ
"พรรคส่งผู้สมัคร 75 เปอร์เซ็นต์มีความพร้อมเรื่องผู้สมัคร โดยส่ง ผู้สมัคร ส.ส.เขต จำนวน 266 เขต และ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 54 รายชื่อ และมีความพร้อมเรื่องนโยบาย ส่วนผลการเลือกตั้งที่ออกมา ส่วนการตอบรับร่วมจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งผมมองมีหลายสูตร ส่วนการตัดสินในของพรรคต่อการตอบรับหรือเข้าร่วมสูตรไหนนั้น ผมจะยึดบนฐานการตัดสินใจของประชาชน ผ่านคะแนนเลือกตั้งที่พรรคได้รับ ทั้งนี้ผมจะต้องรอพิจารณาโครงสร้างทางการเมืองที่ประชาชนตัดสินใจ ทั้งนี้พรรคต้องมั่นใจด้วยว่ารัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้ง ต้องเข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง และแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจให้ประชาชนได้ด้วย ทั้งนี้พรรคไม่มีเงื่อนไขหรือตั้งเงื่อนไขใดทางการเมืองระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง เพราะกังวลว่าจะกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดเดดล็อคทางการเมือง" นายสุวัจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินส่งบัญชีรายชื่อนายกฯที่พรรคสนับสนุนหลังเลือกตั้ง จะเพิ่มคะแนนเลือกตั้งได้ หรือเป็นแค่สีสันทางการเมือง ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า สิ่งที่พรรคพิจารณาคือการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดอย่างพิถีพิถันและรอบคอบให้กับประชาชนทั้ง บัญชีนายกฯ ,นโยบาย ส่วนการตัดสินใจของประชาชนในสิ่งที่พรรคเสนอนั้นขึ้นอยู่กับประชาชน ส่วนกรณีที่มีบุคคลนำรายชื่อบัญชีแคนนิเดตนายกฯ ของพรรคไปเปรียบเทียบกับพรรคอื่นนั้น ตนไม่มองเช่นนั้น เพราะแต่ละพรรคต้องคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชน ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงแกนนำของพรรคทุกคนต้องลงพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัครหาเสียง
นายสุวัจน์ กล่าวตอบถึงเกณฑ์การเสนอชื่อบุคคลในบัญชีนายกฯ ที่ต้องมีจำนวน ส.ส. 25 คนขึ้นไป ว่า ในการเลือกตั้งครั้งแรก พรรคเคยได้ ส.ส. 60 คน และ ครั้งล่าสุด ได้ส.ส. 7 คน ส่วนการเลือกตั้งปี 2562 ตนไม่ทราบว่าจะได้จำนวน ส.ส.เท่าใด เพราะวิเคราะห์ยาก ดังนั้นสิ่งที่พรรคทำได้คือเตรียมความพร้อม วางแผนให้ดี และสู้ให้เต็มที่ ส่วนพื้นที่จ.นคราชสีมา ทั้ง 14 เขต ตนยอมรับว่าการเลือกตั้งรอบนี้เหนื่อย และเป็นสมรภูมิหนัก เพราะมีพรรคการเมืองใหญ่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงแข่งขันจำนวนมาก รวมถึงคาดหวังว่าจะได้ ส.ส.
"ที่โคราชเหนื่อยมากกับการหาเสียง ซึ่งพรรคชาติพัฒนาขอทำเต็มที่ เพราะเป็นฐานที่มั่น เป็นเรือนตาย ทั้งนี้ผมมองว่าการแข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่จะสนุก สูสี ตื่นเต้น และน่าติดตาม" นายสุวัจน์ กล่าว