เตือน 'พปชร.' อย่ารีบขึ้นรูป 'ประยุทธ์' ก่อนยื่นบัญชีนายกฯ

เตือน 'พปชร.' อย่ารีบขึ้นรูป 'ประยุทธ์' ก่อนยื่นบัญชีนายกฯ

รองเลขาฯกกต. แนะ "พปชร." ใจเย็น ยื่นบัญชีนายกฯก่อนขึ้นรูปคู่ผู้สมัคร ย้ำเสนอชื่อ "ประยุทธ์" เป็นนายกฯไม่กระทบการปฏิบัติหน้าที่ปกติ แต่หากมีผลกระทบภายหลังกกต.จะเป็นผู้วินิจฉัย

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) - นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมจะขึ้นรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คู่กับผู้สมัครบนป้ายหาเสียงทันทีที่พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับเป็นบัญชีนายกฯ พรรค ว่า ระเบียบของ กกต. ว่าด้วยเรื่องของป้ายหาเสียง บุคคลที่สามารถนำรูปขึ้นป้ายได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิกพรรค หรือเป็นบัญชีนายกฯ ของพรรคที่จะต้องมีการเสนอภายในวันที่ 8 ก.พ. นี้ ซึ่งพรรคการเมืองควรจะเสนอบัญชีนายกฯ ของพรรคก่อนที่จะดำเนินการนำรูปของบุคคลนั้นไปขึ้นป้ายเพื่อหาเสียง

เมื่อถามว่าระเบียบของกกต.มีการลักลั่นหรือไม่ เพราะพรรคพปชร.เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยู่ในตำแหน่ง จึงอาจใช้ผลงานหาเสียง อีกทั้งโครงการต่างๆของรัฐบาลก็สอดคล้องกับนโยบายของพรรคพปชร. นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เรื่องของความรู้สึกกับกฎหมายต้องแยกแยะออกจากกัน

ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบดูยังไม่มีอะไรเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่หากในภายหลังมีผู้ร้องเรียนเข้ามากกต.ทั้ง 7 คน จะเป็นผู้พิจารณา ส่วนตัวมองว่าเราวิตกกังวลกันเกินไปหรือไม่ ขณะนี้ประชาชนสนใจการเมืองพอสมควร ทุกอย่างจะไปตัดสินใจกันในวันเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ทั้งนี้ กกต.จะไม่พิจารณาประเด็นที่มาจากสื่อ เพราะข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯของ พปชร.จะต้องยกเลิกการจัดรายการทุกวันศุกร์ และการลงพื้นที่ครม.สัญจรด้วยหรือไม่ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ในเรื่องจัดรายการไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในวิสัยของผู้วินิจฉัย ส่วนการลงพื้นที่ครม.สัญจรได้หรือไม่นั้น ถ้าดูกฎหมายดีๆจะพบว่าการที่บุคคลใดถูกทาบทาม โดยหลักแล้วการที่บุคคลใดถูกทาบทามให้อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคใดไม่บังคับให้เป็นสมาชิกพรรค และต้องไม่กระทบกระเทือนต่อวิชาชีพของเขา เคยประกอบอาชีพใด เคยทำตัวอย่างไรก็ยังสามารถทำได้ ส่วนที่ทำไปแล้วจะมีผลกระทบอย่างไรก็เป็นข้อเท็จจริงของผลกระทบ ต้องว่าเป็นกรณีไป ถ้าบอกว่าเมื่อนาย ก. ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯแล้วจะประกอบสัมมาอาชีพปกติไม่ได้ คงไม่ใช่เจตนารมณ์ของกฎหมาย หากมีผู้ที่คิดว่าได้รับผลกระทบมายื่นคำร้องกกต.จะรับไว้เพื่อวินิจฉัย