ค้าปลีกตุนสต็อกหน้ากาก เครื่องฟอกอากาศโต 900%

ค้าปลีกตุนสต็อกหน้ากาก เครื่องฟอกอากาศโต 900%

ภาคธุรกิจ “ค้าปลีก-ร้านอาหาร” รับมือวิกฤติฝุ่น ประสานซัพพลายเออร์เร่งเพิ่มสต็อกสินค้าป้องกันฝุ่น “เครื่องฟอกอากาศ” ดีมานด์พุ่ง 900%  หน้ากากอนามัยโต 200% ผู้บริโภคลดกิจกรรมกลางแจ้ง หนุน “ดีลิเวอรี่” ยอดพุ่ง 25% 

สถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินระดับมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชนในวงกว้าง ทางด้านภาคธุรกิจโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า รวมทั้งร้านอาหาร ที่เปรียบเสมือน “บ้านหลังที่2” ของผู้บริโภคที่นิยมออกมาใช้ชีวิต ได้เตรียมพร้อมรับมือทั้งวิกฤติและโอกาสในหลายรูปแบบ

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าหลักส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าของเดอะมอลล์กรุ๊ป ซึ่งยังคงมาใช้บริการตามปกติ แต่ลูกค้าจะซื้อสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น เพราะจะได้ไม่ต้องออกจากบ้านบ่อยๆ และหากจำเป็นต้องออกจากบ้าน เชื่อว่าลูกค้าจะเตรียมความพร้อมในการป้องกันและดูแลตนเองเป็นอย่างดีขณะเดินทาง 

โดยลูกค้าที่ต้องเดินทางโดยใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะจะสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นระหว่างเดินทาง ส่วนลูกค้าที่มีรถส่วนตัวอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และเมื่อเดินทางมาถึงภายในห้างและศูนย์การค้าจะมีระบบกรองอากาศที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยได้

เครื่องฟอกอากาศยอดพุ่ง900%

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มสินค้าที่เป็นที่ต้องการ มีการจำหน่ายสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ได้แก่  กลุ่มเครื่องฟอกอากาศ ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 900% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 

"เราเตรียมความพร้อมในการสั่งซื้อและสต็อกสินค้าไว้ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค. เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค แต่เนื่องจากความต้องการของลูกค้ามีมากทำให้สินค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการ"

ขณะนี้ เดอะมอลล์ ได้ประสานงานกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อเร่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาจำหน่าย โดยจะเข้ามาทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้คำแนะนำในการเลือกซื้อให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

เร่งซัพพลายเออร์ผลิตหน้ากากฯ

สำหรับหน้ากากอนามัย เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายเดือนเดียวเติบโตถึง 200% และสินค้ามีไม่เพียงพอจำหน่าย แต่ได้เจรจาให้ซัพพลายเออร์เร่งการผลิตและส่งสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

รายงานข่าวจาก บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี ผู้บริหารเครือข่ายร้านอาหารของกลุ่มเซ็นทรัล ระบุว่า ร้านอาหารในเครือซีอาร์จีส่วนใหญ่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า ซึ่งผู้บริโภคส่วนมากยังเลือกเข้าไปใช้บริการร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์การค้ามากกว่าไปร้านสตรีทฟู้ด  

ยอดดีลิเวอรี่ซีอาร์จีพุ่ง 25%

อย่างไรก็ตาม ซีอาร์จี มองว่าวิกฤติดังกล่าวเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจดีลิเวอรี่ (Delivery)  หรือบริการสั่งอาหารเพื่อรับประทานที่บ้านของซีอาร์จีและโดยภาพรวมที่เป็นหนึ่งในทางเลือกในการให้บริการผู้บริโภคได้

“เพื่อลดการเผชิญกับมลพิษนอกบ้านจากวิกฤติฝุ่นละอองซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของลูกค้าที่ต้องการมาใช้บริการที่ร้านและเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ซีอาร์จี จึงพร้อมจัดบริการส่งอาหารดีลิเวอรี่ถึงบ้านลูกค้าผ่าน2 ช่องทาง คือ CRG call center 1312 และ ผ่านเธิร์ดปาร์ตี้เช่น แกร็บฟู้ด, ไลน์แมน, ฟู้ดแพนด้า ออนเนสบี”

ทั้งนี้ ทุกแบรนด์ในเครือซีอาร์จี มุ่งทำการสื่อสารกับลูกค้าผ่านสื่อออนไลน์ของแบรนด์ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาใช้บริการในช่องทางนี้มากขึ้น ส่งผลให้ยอดการสั่งอาหารผ่านช่องทางดีลิเวอรี่เติบโตมากกว่า 25% จากยอดการสั่งซื้อปกติ 

เตรียมหน้ากากแสนอัน

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการ ฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ลูกค้าเข้าใช้บริการภายในเทสโก้ โลตัส เป็นปกติ ซึ่งเน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยพบว่าลูกค้าเตรียมความพร้อมในการเดินทางและดูแลปกป้องตนเองมากขึ้น หลีกเลี่ยงกิจกรรมประเภทกลางแจ้ง 

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ความต้องการหาซื้อหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะชนิด N95 เพิ่มขึ้นอย่างมาก และความต้องการมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทสโก้ โลตัส จำหน่ายหน้ากากชนิดนี้ในร้านขายยาเทสโก้ ภายในไฮเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 170 สาขาทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น เทสโก้ โลตัส ได้ประสานงานกับผู้ผลิตหน้ากากอนามัย N95 เพื่อเพิ่มสต็อกสินค้าอย่างเร่งด่วน 

“เทสโก้ โลตัส ยืนยันการจำหน่ายสินค้าในราคาปกติเท่าเดิม เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้อย่างทั่วถึง ไม่มีการจำกัดปริมาณการซื้อ และจะมีหน้ากากอนามัยแบบ N95 เข้ามาอีกเกือบแสนอันในเร็วๆ นี้”