ตร.บุกรวบเจ้าของเพจเฟซบุ๊ค 'พี่ยศ เมืองนนท์' โพสต์ชวนขาโจ๋แว้นซิ่ง

ตร.บุกรวบเจ้าของเพจเฟซบุ๊ค 'พี่ยศ เมืองนนท์' โพสต์ชวนขาโจ๋แว้นซิ่ง

"บิ๊กปิ่น" พร้อมชุดเฉพาะกิจ บุกรวบ เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค "พี่ยศ เมืองนนท์" โพสต์ชวนขาโจ๋แว้นป่วนเมือง พร้อมบุกรวบร้านแต่งรถซิ่ง 46 ร้าน ยึดท่อไอเสียอีกอื้อ



เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ก.พ.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล2 (บก.น.2) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร.พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ รอง ผบก.น.2 ,พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.ปส. พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. 5บก.จร. ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS) ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ และตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล2 ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.2

พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า สืบเนื่องจากตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดยในวันนี้ (2 ก.พ.) ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน 1 ราย จากการสืบสวนทราบว่ามี เพจเฟสบุ๊คชื่อ “พี่ยศ เมืองนนท์” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยมีผู้ติดตามกว่า 300 คน ซึ่งการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊ค ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายสมยศ หวนสีทัย อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ 95 เพจที่ 111 ที่มีการถูกปิดไป

พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.ปคบ. ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 46 ร้าน พบการกระทำความผิดและยึดท่อไอเสียของกลางมาเพื่อตรวจสอบ 25 รายการ

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กองตรวจมลพิษ โดยนายธวัชชัย แก้วภักดี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ และทีมงาน ได้ตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) จำนวนทั้งหมด 58 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 38 คัน จึงได้ออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน

“สำหรับการตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 129 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 113 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 16 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 51 ราย ผู้ใหญ่ 66 ราย รวมทั้งหมด 117 ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ผลการปฏิบัติไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะเยาวชนและผู้ใหญ่ จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป” ผบก.จร.ระบุ