ย้ำปิดร.ร.ทำเพื่อปกป้องเด็ก ไม่ได้แก้ปัญหาฝุ่น

ย้ำปิดร.ร.ทำเพื่อปกป้องเด็ก ไม่ได้แก้ปัญหาฝุ่น

"รมว.ศธ.” ย้ำการปิด ร.ร. ไม่ใช่แก้ปัญหาหลายเหตุ ไม่ได้ทำเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น แต่ทำเพื่อปกป้องเด็ก มอบปลัดศธ ผู้ประสานงาน ระบุพิจารณารายวัน ส่วนการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ ทางโรงเรียนมีมาตรการในเรื่องนี้อยู่แล้ว

วันนี้ (31 ม.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการให้สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) หยุดการเรียนการสอนเป็นระยะเวลา 2 วัน คือ วันที่ 31 ม.ค. และวันที่ 1 ก.พ.' เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกินกว่ามาตรฐาน ไปแล้วนั้น ขณะนี้ถือว่าได้เสียงตอบรับจากสังคมค่อนข้างที่จะพอใจ แต่ก็ยังมีนักวิชาการบ้างกลุ่มที่ออกมาบอกว่าการแก้ปัญหาดังกล่าว ขออธิบายว่าการปิดสถานศึกษาไม่ใช่การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เพราะเด็กไม่ได้ทำให้เกิดฝุ่นละออง แต่การดำเนินการดังกล่าวทำเพื่อปกป้องเด็ก ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือต้นเหตุ ทั้งนี้ในส่วนการดำเนินการสำหรับวันที่ 4 ก.พ.นี้ ว่าจะมีการหยุดการเรียนการสอนต่อไปหรือไม่นั้น ขอให้ทุกฝ่ายรอฟังประกาศจาก ศธ. ซึ่งจะออกในวันที่ 3 ก.พ. เพราะ ศธ.จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลวันต่อวัน โดยได้มอบหมายให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เป็นผู้ประสานงานหลักในเรื่องนี้ และรายงานมาทุกวัน

ทั้งนี้ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และ ม.6 ที่จะต้องเข้ารับการทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) สามารถทบทวนบทเรียนที่บ้านได้ผ่าน www.ติวฟรี.com ได้ทันที อีกทั้งในส่วนของการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ ทางโรงเรียนก็มีมาตรการในเรื่องนี้อยู่แล้วเชื่อว่าโรงเรียนสามารถบริหารจัดการได้ หากสอนไม่ควรตามหลักสูตรก็คงต้องมีการสอนชดเชย เป็นอำนาจของโรงเรียนในการบริหารจัดการ เพราะต้องมองว่าปัญหาสุขภาพของเด็กถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ปรับฝุ่นไม่ได้ แต่ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนได้ ส่วนที่มีการบอกว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรนั้น ขอให้เห็นใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลด้วย เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ เกือบจะทั้ง 24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น ทุกคนควรที่จะออกมาใช้กัน ไม่ใช่ออกมาโจมตีกัน เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในสังคม