มองเฟดผ่อนคลาย แต่ Brexit และเจรจาสงครามการค้ายืดเยื้อ ยังกดดันตลาดช่วงสั้น

มองเฟดผ่อนคลาย แต่ Brexit และเจรจาสงครามการค้ายืดเยื้อ ยังกดดันตลาดช่วงสั้น

ติดตามการส่งสัญญาณของเฟด หุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสาน โดยนักลงทุนติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) วันนี้

ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2562 โดยตลาดคาดว่าจะเห็นการส่งสัญญาณผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง ความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ล่าสุด บ่งชี้ถึงโอกาสที่เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลง ประกอบกับรอผลการเจรจาการค้า 30-31 ม.ค.ทำให้หุ้นสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มผันผวน

เรื่อง Brexit ยังไม่จบและเป็นปัจจัยกดดันตลาด หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยก่อนการลงมติต่อ “ร่างแก้ไข” การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทั้งนี้จากการลงมติรับรองร่างแก้ไขฯ ผู้นำอังกฤษจะนำไปปรับปรุงร่างข้อตกลงฉบับใหม่ และผ่านสภาภายใน 26 ก.พ. และกลับไปเจรจากับผู้นำสหภาพยุโรป ซึ่งมีจุดยืนไม่ผ่อนปรนให้กับอังกฤษ ดังนั้นความยืดเยื้อดังกล่าวยังเป็นความเสี่ยงกดดันต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้

ติดตามการเมืองและผลการดำเนินงานบจ. – การเมืองเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามขั้นตอน ล่าสุด 4 รมต.ลาออก และพรรคการเมืองเตรียมเปิดเผยรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งช่วงสั้นมีผลดีจำกัด เนื่องจากความเสี่ยงของความยืดเยื้อจากการรับรองผลการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยกดดัน ติดตามการประกาศผลประกอบการหุ้น SCC และ PTTEP วันนี้ ทั้งนี้ SET Index มีแนวโน้มถูกกดดันจากการปรับประมาณการกำไรบจ.ลง สะท้อนผ่าน EPS ของตลาดที่ปรับลดลงจากต้นปี 116 เหลือ 112 ในปัจจุบัน

รายตัวยังชอบค้าปลีก อาหาร เก็งกำไรหุ้นเล็กอย่างระวัง หุ้นขนาดใหญ่ยังชะลอตัว ขณะที่หุ้นกลาง-เล็กอาจฟื้นตัวได้ก่อนรายงานผลประกอบการ ซึ่งเรามองเป็นการเก็งกำไรแบบ high risk, high return ภาพรวมการลงทุนเรายังชอบหุ้นกลุ่ม ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว มีแนวโน้มฟื้นตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ ค้าปลีก/บริโภค CPALL, ROBINS, BJC, MAJOR อาหาร TU, CPF ท่องเที่ยว MINT, ERW, AOT ส่วนกลุ่มไฟฟ้าและสาธารณูปโภค เราชอบ EGCO, GPSC, BEM

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดย่อสลับเพื่อย่ำฐาน จากปัจจัยเหตุการณ์ที่อาจเข้ามากระทบตลาดจำนวนมากในสัปดาห์นี้ ไม่ไล่ราคา เก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อย  // หุ้นแนะนำวันนี้ STEC, CPF, MAJOR /เก็งกำไร VNT* (เป้า 24 ตัดขาดทุน 22), SAMART* (เป้า 7.10 ตัดขาดทุน 6.45)

แนวรับ 1610 / แนวต้าน : 1627-1635 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

สศอ.ห่วงส่งออกรถยนต์ชะลอ – ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์เดือนธันวาคม 2561 อยู่ที่ 113,581 คัน ถือว่าสูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเอกชนคาดการณ์ยอดในปี 2562 คาดว่า ยอดส่งออกรถยนต์ลดลง ขณะที่ยอดจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น

THCOM – ครม.อนุมัติต่ออายุดาวเทียมไทยคมราว 1 ปี เพื่อให้หมดตรงกับสัมปทานของบริษัทในปี 2564 เป็นปัจจัยบวก แต่แนวทางการกำกับดูแลใหม่ที่ให้กิจการดาวเที่ยมอยู่ภายใต้การร่วมดำเนินงานระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ทำให้หุ้นมีความไม่แน่นอนในเชิงของผลตอบแทนและการแบ่งปันผลประโยชน์ ขณะที่กระบวนการตาม PP มีกรรมการหลายชุดทำให้อาจล้า

รุมค้านกสทช.ประมูลคลื่น700 - ผู้เชี่ยวชาญโทรคมนาคมแนะ รบ.ใหม่ดัน 3 เรื่อง ด้าน 'รมว.ดีอี' แย้ง กสทช.ใช้คลื่น 700 รองรับ 5G ไม่สอดคล้อง 'ฐากร' ยันประมูลคลื่น พ.ค.หวั่นกระทบบริการ 5G ช้ากว่าประเทศอื่น

ประเด็นติดตาม: 31 ม.ค. – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ติดตามตัวเลขส่งออก / 30 ม.ค. – FOMC meeting / 30-31 ม.ค. – เจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)