KKP - ซื้อ

KKP - ซื้อ

คาดปันผลปี 2562 อยู่ระดับสูง

เรามองว่า KKP จะสามารถบรรลุเป้าหมายคาดการณ์การเติบโตของการปล่อยสินเชื่อในปี 2562 ที่ 5% และ รายได้ค่าธรรมเนียมที่ 8% โดยสินเชื่อเน้น SME และเชื่อรายย่อย, สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของ KKP อยู่ที่ 17.5% (สูงกว่าขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 11.5%) ซึ่งสามารถขยายสินเชื่อได้โดยที่ไม่ต้องเพิ่มทุน เราคาดว่าการเติบโตกำไรในปี 2561อยู่ที่ 4%อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท และเงินปันผลในปี 2562อยู่ที่ 7.3% สูงที่สุดกลุ่มธนาคารที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรา เรายังคงแนะนำ “ซื้อ”

เป้าหมายการเติบโตเชื่อ อยู่ที่ 8% หนุนโดยสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง

KKP ยืนยันเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2562 ที่ 8% ลดลงจาก 18.5% จากปีที่ผ่านมา ธนาคารมีแผนจะขยายสินเชื่อ SME ขนาดกลาง (โดยปัจจุบันอยู่ที่ 12% ของสินเชื่อโดยรวม), สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง (ปัจจุบันอยู่ที่ 14% ของสินเชื่อโดยรวม) โดยการเน้นสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทนสูงจะหนุนรายได้ค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ผู้บริหารคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะปรับตัวลดลงจาก 5.0% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 4.5-4.7% เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเร็ว ทั้งนี้ เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อที่ 5% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.2% ซึ่งค่อนข้างอนุรักษ์นิยมมากว่าที่ KKP คาดการณ์เอาไว้ ทั้งนี้หากธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้กำไรปี 2562 คาดว่าจะมากกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้

เราคาดในปี 2562 KKP จะขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวมมากว่า1.3 พันล้านบาท (เท่าปีก่อน) พร้อมทั้งคาดการณ์กำไรที่ 500 ล้านบาท(ทั้งนี้บริษัทรายงานกำไรที่ 700 ล้านบาทในปีที่แล้ว) หากธนาคารสามารถทำกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มากกว่า 500 ล้านบาทในปีนี้ จะมีโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 2562 ปัจจุบันสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รอการขายของ KKP มีราคาประเมิน 8.7 พันล้านบาทเทียบกับต้นทุนเพียง 3.7 พันล้านบาท

คาดการตั้งสำรองหนี้สูญฯ ทรงตัว YoY

ผู้บริหารคาดอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อ KKP ในปี 2562 จะอยู่ 1-1.2% ของสินเชื่อโดยรวม (รวมถึงการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ทั้งนี้บริษัทมีแผนลดอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมต่ำว่า 4 % ณ สิ้นปี 2561 (ปรับลดลงจาก 5% ณ สิ้นปี 2560 มาอยู่ที่ 4.1% ณ สิ้นปี 2561) เราประเมินการตั้งสำรองหนี้สูญฯ ปี 2562 ที่ 1.5 พันล้านบาท (อ้างอิงจากต้นทุนสินเชื่อที่ 1.1% ของสินเชื่อ รวมถึงการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) หรือสูงขึ้น 20% YoY จาก 1.25 พันล้านบาทในปี 2561 หาก KKP ตั้งสำรองฯมากกว่าที่คาดการณ์จะเกิดความเสี่ยงขาลงแก่กำไรของบริษัท

เงินกองทุนที่แข็งแกร่งการเติบโต และอัตราเงินปันผลสูง

อัตราส่วนความพอเพียงของทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของ KKP อยู่ที่ 17.5% ณ สิ้นปี 2561 (Tier-1 อยู่ที่ 13.7%) สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 11.5% ฐานเงินที่แข็งแกร่งนี้จะทำให้ KKP สามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้อย่างน้อยอีกหลายปีโดยไม่ต้องเพิ่มทุน นอกเหนือจาก KKP ตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2562 อยู่ประมาณ 14-15% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่ 14% ทั้งนี้เราคาดว่าการจ่ายเงินปันผลที่สูงจะเป็นตัวกระตุ้นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปีนี้ให้ใกล้ 14% โดยเรา
ประเมินเงินปันผลปี 2561 ที่ 5 บาท/หุ้น (คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 7.3% สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารซึ่งอยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรา) โดยหากกำไรปี 2562 มากกว่าทีเราคาดการณ์ จะเป็นอัพไซด์ต่อสมมติฐานเงินปันผล