'สนธิรัตน์​' เปิดใจอำลาขรก.พณ.​ ทำงาน3ปีแก้ปัญหาเก่า-ปลุกศก.ฐานราก

'สนธิรัตน์​' เปิดใจอำลาขรก.พณ.​ ทำงาน3ปีแก้ปัญหาเก่า-ปลุกศก.ฐานราก

รมว.พาณิชย์​ อำลาข้าราชการประจำกระทรวง ชื่นมื่นเผยตัดสินใจลาออกครั้งนี้สร้างบรรทัดฐานใหม่การเมืองไทย ชูบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ขอประสานต่อใหม่ในนามพรรคพลังประชารัฐ

นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์​ ประชุมกับผู้บริหารกระทรวงและข้าราชการประจำเป็นครั้งสุดท้าย ที่ห้องประชุมกระทรวงพาณิชย์สนามบินน้ำ หลังจากนั้น ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์พร้อมสื่อมวลชนตบเท้ามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ

นายสนธิรัตน์ บอกว่าการลาออกครั้งนี้นับเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการเมืองไทย เพราะไม่เคยมีรัฐมนตรีคนไหนลาออกหลังจากที่พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งประกาศออกมา​ ที่ผ่านมาก็จะเป็นรัฐมนตรีรักษาการ สำหรับตนต้องการทำงานการเมืองเต็มตัวไม่อยากเบียดบังเวลาราชการจึงลาออกโดยใช้เหตุผล ด้านความรับผิดชอบในการตัดสินใจ ไม่ใช่เหตุผลทางการเมือง

ในช่วง​ 3-4 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ลำบากใจเพราะมีภาระหลายอย่าง ที่ต้องรับผิดชอบ เร่งรัดให้แล้วเสร็จไม่ทิ้งเป็นภาระ ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องทีหลัง จึงเร่งรัดงานต่างๆ ก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่​ เช่น e commerce จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้​ ซึ่งจะช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขัน​ แล้วก็ผลักดันเป็นโมเดลลดปัญหาความยากจน ซึ่งงานส่วนนี้ก็ได้ฝากให้ผู้บริหารของกระทรวงได้สานต่อ

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้ายกระดับร้านค้าปลีก ร้านโชวห่วย​ ให้อยู่รอด เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมีความเข้มแข็งมาขึ้นจากการเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐ รวมไปถึงเรื่องร้อนอย่างการประกาศสินค้ายาเป็นสินค้าควบคุมเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค​ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการตั้งคณะทำงานที่จะประชุมในวันที่ 31 มกราคมนี้

ล่าสุด เรื่องที่ลำบากใจคือเรื่องสิทธิบัตรกัญชาที่ถือว่าเป็นเรื่องซับซ้อน และถูกกล่าวหาว่ามีนอกมีในกับเอกชน จึงต้องทำงานด้วยความอดทน ไม่ย่อท้อต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์​ ตนเชื่อว่าไทยสามารถใช้พืชกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคตได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีม. 44 ยกเลิกสิทธิบัตรกัญชาออกมา​ ที่ผ่านมาการดำเนินงานของกระทรวงก็อาจไม่ทันใจกับผู้ที่ออกมาเรียกร้อง​ เพราะว่าต้องทำงานอยู่บนหลักการ

นายสนธิรัตน์​ บอกอีกว่า​ 2 ปีที่ผ่านมาในการเป็นรัฐมนตรีช่วยและ 1 ปีของการเป็นรัฐมนตรีว่าการก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจฐานราก Local economy ตนเป็นผู้เริ่ม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ​ สร้างโอกาสให้กับเศรษฐกิจฐานรากเชื่อมโยงสู่ร้านโชห่วยไปสู่สินค้าชุมชนซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่มีความเป็นรูปธรรมมากที่สุดและหวังว่าจะดำเนินการต่อไป

ส่วนสินค้าเกษตรได้มุ่งเน้นแก้ปัญหาจากรากเหง้าไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ดันราคาให้สูงขึ้น อย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น​ เรื่องข้าวที่มีมาตรการชะลอขาย​ มีแผนข้าวครบวงจร​ รวมทั้งสะสางปัญหาหลายอย่างจนขายข้าวหมดสต๊อก​ อันดับการส่งออกข้าวก็ดีขึ้น​ ราคาข้าวหอมมะลิอยู่ในเกณฑ์ที่ชาวนาพอใจ

เรื่องผลไม้มีการผลักดันนโยบายมหานครผลไม้ของโลกเช่นทุเรียนที่สามารถส่งออกไปได้ถึงแสนลูกภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

นอกจากนี้ พืชเกษตรอย่างมันสำปะหลังและข้าวโพดที่เป็นปัญหามาหลายปีก็ถูกแก้ไข​ ปัจจุบันราคาข้าวโพดสูงถึง 9 -​ 10 บาท​ รวมทั้งราคามันสำปะหลังก็ถือว่าเป็นปีที่ดีมากราคาอยู่ที่ 2.50 บาท​ หากยกระดับการป้องกันโรคใบด่างได้ก็อาจจะอยู่ที่ 3 บาทซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดจากการบริหารจัดการ​ ดีมาน​ ซัพพลาย​ ให้สมดุล​ ความจริงแล้วตนยังมีแผนในการปฏิรูปการเกษตรทั้งวงจร แต่เสียดายที่มีเวลาทำงานน้อยไปจึงอยากขอมาทำต่อในนามพรรคพลังประชารัฐ