'ประยุทธ์' เผยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นมงคลที่สุดของประเทศไทย

'ประยุทธ์' เผยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นมงคลที่สุดของประเทศไทย

"ประยุทธ์" เผยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเริ่ม 2 เม.ย. เป็นมงคลที่สุดของประเทศไทย ปลุกคนไทย รู้ประวัติศาสตร์

เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 28 ม.ค. 62 ที่สวนพฤกษาศาสตร์พุแค ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าว ตอนหนึ่งว่า พื้นที่ที่มาวันนี้เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย เราต้องคำนึงถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่มีมา 700 กว่าปี วันนี้เราถือว่าร่วมกันทำ 2 อย่าง คือถวายพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวรรคาลัย และเรากำลังจะร่วมมือกัน จัดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก เป็นพิธีที่เป็นมงคลที่สุดของประเทศไทย เราต้องทำให้ดีให้เหมือนเดิม เป็นไปตามจารีตประเพณี โดยเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จมาร่วมเป็นประธานที่ปรึกษา หารือว่าจะต้องทำอย่างไร โดยพระราชพิธีจะเริ่มมีตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.นี้ ไม่ใช่แค่เดือนพ.ค.อย่างเดียว ต้องมีพิธีตักน้ำพลีกรรม น้ำทั้งหมด 108 แห่ง นั่นคือพิธีโบราณตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ทำมาโดยตลอด และต้องทำทุกรัชกาล เพราะเป็นสิ่งที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมายาวนาน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใช่หรือไม่ หรือใครคิดว่าไม่ควร เราต้องทำถวาย วันหน้าลูกหลานของเราจะอยู่ในรัชกาลที่ 10 ต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น เพราะนี่คือประเทศไทยของเรา

นายกฯ กล่าวว่า สวนป่า สวนพฤกษชาติมีมานานแล้ว วันนี้รัฐบาลมาจัดระเบียบ หมวดหมู่ที่หลวง ที่เอกชน พื้นที่ป่า เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ ประชาชนจะอยู่กันอย่างยั่งยืนอย่างไร ตามแนวทางรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10

"เหมือนกับประเทศชาติ ถ้าไม่รู้ว่าประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นมาอย่างไร บรรพบุรุษเสียสละชีวิตอย่างไร พระมหากษัตริย์ทรงนำทัพมาอย่างไร ทุกคนจะไม่รู้ว่าประเทศไทยเป็นมาอย่างไร แผ่นดินไทยรักษามาโดยใครจะไม่รู้เลย เมื่อไม่รู้ จะรู้หรือไม่จะรักประเทศอย่างไร ความภาคภูมิใจมันไม่เกิด แม้กระทั่ง อ.พุแค จ.สระบุรี ถ้าไม่มีประวัติศาตร์ อย่างที่หลายคนบอกเลิกให้หมด ไม่ต้องไปเรียนมาก มันไม่ได้ เพราะมันจะทำให้หมดแรงที่จะดึงให้คนต่างๆ อยู่รวมกัน รักสามัคคีกันหายไปหมด แล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป หลายอย่างไม่ควรจะเลิก มันจะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ตนพูดวันนี้เกี่ยวกับเรื่องป่า ไม่ได้พูดให้ใคร หรือการเมืองใครทั้งสิ้น ตนพูดในนามรัฐบาล พูดในนามนายกฯ ขอให้เข้าใจ ฉะนั้น ใครจะไปพูดอะไร ก็เรื่องของเขาคงไม่เกี่ยวกับตน ตนพูดในนามรัฐบาล รัฐบาลต้องพูดได้เพราะเป็นคนทำนโยบาย ทั้งไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่ร่วมกับป่า