รวบแก๊งเมียนมา หลอกเพื่อนร่วมชาติทำบัตรกะเหรี่ยง อ้างตำรวจไม่จับ

รวบแก๊งเมียนมา หลอกเพื่อนร่วมชาติทำบัตรกะเหรี่ยง อ้างตำรวจไม่จับ

“บิ๊กโจ๊ก” แถลงจับแก๊งเมียนมา หลอกเพื่อนร่วมชาติทำบัตรกะเหรี่ยง อ้างตำรวจไม่จับ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ม.ค.62 ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พร้อมด้วยตำรวจ บช.สตม. บช.ทท.และชุด ศอปส.ตร. แถลงการจับกุม แก๊งชาวเมียนมาหลอกเพื่อนร่วมชาติทำบัตรประจำตัวประชาชนชนชาวกระเรี่ยง จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายโม ซอ อายุ 38 ปี น.ส.นาน อเย เง อายุ 24 ปี นายซอ ฮ่อง เนียง อายุ 39 ปี และนายซอ ทาน อายุ 30 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผกก.2 บก.สส.สตม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีกลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาได้ชักชวนเพื่อนชาวเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายทำบัตรประจำตัวชาวกระเหรี่ยงในราคา 5,600 บาท อ้างว่าบัตรดังกล่าวสามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โดยจะไม่ถูกจับกุมและสามารถใช้แทนใบอนุญาตทำงานได้ จึงเกิดหลงเชื่อทำบัตรดังกล่าวไปแล้วจำนวนหนึ่ง หลังจากรับเรื่องดังกล่าวมาได้สั่งการให้ กก.2 บก.สส.สตม. ลงพื้นที่สืบสวนกระทั่งทราบว่าแก๊งชาวเมียนมาที่รับทำบัตรประจำตัวชาวกะเหรี่ยงได้เช่าห้องพักอยู่ย่านแสมดำจึงประสานไปยัง สน.แสมดำ เพื่อวางแผนเข้าตรวจค้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ได้เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 79 ซอยสะแกงาม 36 ถนนสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อเปิดเข้าไปภายในห้องพบชาวเมียนมา 4 คน ซึ่งทั้งหมดกำลังรวมกันพิมพ์บัตรประจำตัวชาวกะเหรี่ยงโดยใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องปริ้นเตอร์พิมพ์บัตรพลาสติกแข็งอยู่และอีกส่วนกำลังจัดเรียงบัตรใส่ซองพลาสติกอยู่จึงนำกำลังเข้าจับกุม พร้อมกับตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เครื่องปริ้นเตอร์ 1 เครื่อง เครื่องตัดกระดาษ เครื่องพิมพ์ลายน้ำหน้าบัตร บัตรประจำตัวกะเหรี่ยงที่ทำเสร็จแล้ว 80 ใบ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร เครื่องวิทยุสื่อสารแบบตั้งโต๊ะและพกพา เสาส่งสัญญาณวิทยุสื่อสารขนาด 350 วัตต์ 1 ต้น จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ การดำเนินคดีได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมกับขึ้นบัญชีดำและจะทำการขยายผลเพื่อเอาผิดในส่วนอื่นก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป