"ดีเอสไอ" เปิดตัวโปรแกรมวิเคราะห์การกระทำผิด ให้ 4 หน่วยบังคับใช้กม.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าวใช้เป็นฐานข้อมูลปราบ "นอมินี" ชี้ชัดนิติบุคคลใดเป็นต่างด้าว-รู้ช่วงเวลาทำผิด-รายได้และใครอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี เหลือแค่พัฒนาระบบเชื่อมข้อมูล
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้จัดทำโปรแกรมวิเคราะห์การกระทำผิด Criminal Accounting Investigation (DSI - CAI) เสร็จแล้ว โดยโปรแกรมดังกล่าว สามารถวิเคราะห์พยานหลักฐานและบ่งชี้ได้ว่านิติบุคคลใดเป็นนิติบุคคลต่างด้าว ในช่วงเวลาใด มีรายได้เท่าใด และบุคคลใดอยู่ในข่ายที่จะต้องถูกดำเนินคดีบ้าง ถือเป็นการพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือกฎหมายนอมินีเฉพาะที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศในมิติต่าง ๆ และเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ และที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยบุคคลและใช้พยานหลักฐานจากฐานข้อมูลในความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมการปกครอง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า หลังจากคณะทำงานเพื่อจัดทำโครงการแนวทางการพัฒนาการดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542ได้ร่วมกันจนสามารถกำหนดรูปแบบในการวิเคราะห์การกระทำผิดที่แน่ชัดแล้ว และเห็นว่าสามารถพัฒนาเป็นโปรแกรมประยุกต์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและแปลผลได้ เพื่อจะลดระยะเวลาและขั้นตอนในการดำเนินคดี โดยปัจจุบันได้มีการทดลองสาธิตการทำงานของโปรแกรม ซึ่งเห็นว่าใช้ได้ดี แต่ต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยระบบแทนการขอข้อมูลระหว่างกันผ่านบุคคล และนำมาบันทึกลงโปรแกรมที่อาจล่าช้าในการบันทึกข้อมูล และเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปโดยรวดเร็ว หลังจากพัฒนาโปรมแกรมเสร็จแล้วดีเอสไอก็จะให้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเข้ามาใช้ระบบร่วมกันต่อไป
“ข้อมูลจะมีมาตรฐานเดียวกันและเมื่อสร้างฐานข้อมูลเสร็จทั้งหมด ก็จะทำให้การบูรณาการด้านการป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และสอบสวนเรื่องเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน มีความเป็นระบบและมีประสิทธิภาพต่อการทำงานของหน่วยงานรัฐมากขึ้น”พ.ต.อ ไพสิฐ กล่าว