'ขนส่ง' สั่งคุมเข้มป้องกันฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสาร

'ขนส่ง' สั่งคุมเข้มป้องกันฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสาร

"ขนส่ง" สั่งคุมเข้มป้องกันฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสาร หากพบปรับ 5,000 บาท ผิดซ้ำพิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำรถ ทั้งผู้ขับรถและผู้เก็บค่าโดยสาร

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.62 นายกมล บูรณพงศ์ รองกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติเลื่อนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางทุกประเภทออกไปจากกำหนดเดิมเป็นวันที่ 22 เมษายน 2562 ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางทุกประเภทต้องปฏิบัติตามมติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยต้องจัดเก็บค่าโดยสารตามอัตราเดิมที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ประกอบการบางรายฉวยโอกาสเก็บค่าโดยสาร โดยใช้อัตราใหม่ซึ่งจะมีผลวันที่ 22 เมษายน 2562

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ตรวจสอบตามประเด็นร้องเรียนและควบคุมการให้บริการให้เป็นไปตามเงื่อนไข หากตรวจสอบพบการฉวยโอกาสเก็บค่าโดยสารเพิ่มจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ฐานเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารผิดไปจากที่ทางราชการกำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมบันทึกประวัติการกระทำความผิด และหากพบการกระทำผิดซ้ำพิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำรถ ทั้งผู้ขับรถและผู้เก็บค่าโดยสาร รวมถึงผู้ประกอบการจะมีความผิดฐานไม่ควบคุมกำกับดูแลการให้บริการ ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง

สำหรับค่าโดยสารปัจจุบัน รถของ ขสมก. 6.50 บาท รถร่วม ขสมก. (บัสใหญ่และมินิบัส) 9 บาท รถโดยสารปรับอากาศ 12-20 บาท รถโดยสารปรับอากาศ (Euro) 13-25 บาท รถสองแถว 7 บาท รถตู้โดยสารจัดเก็บในอัตราเดิม ขณะที่รถหมวด 2 หมวด 3 ที่ให้บริการในต่างจังหวัด ทั้งรถบัส บขส.และรถร่วม บขส. แบ่งเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย ระยะทาง 40 กม.แรก 0.49 บาทต่อ กม., 40-100 กม. 0.44 บาทต่อ กม., 100-200 กม. 0.40 บาทต่อ กม. และเกิน 200 กม. 0.36 บาทต่อ กม.

ทั้งนี้ในกรณีเป็นรถตู้และรถโดยสารขนาดเล็ก 0.67 บาทต่อ กม. หากประชาชนพบรถโดยสารสาธารณะเก็บค่าโดยสารเกิน สามารถแจ้งกับผู้ตรวจการได้โดยตรง หรือร้องเรียนผ่านสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง