จีนเปิดตัวโฆษณารณรงค์ไม่ซื้องาช้างในไทย

จีนเปิดตัวโฆษณารณรงค์ไม่ซื้องาช้างในไทย

ผลสำรวจของเครือข่ายเฝ้าระวังการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า (TRAFFIC) และ กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ที่เปิดเผยเมื่อเดือนก.ย.2561 พบความต้องการผลิตภัณฑ์งาช้างและการซื้อขายงาช้างผิดกฎหมายในจีนลดลงนับตั้งแต่จีนประกาศห้ามการซื้อขายงาช้างในประเทศเมื่อต้นปี2561

กรมศุลากรจีน และหน่วยงานด้านป่าไม้แห่งชาติจีน ร่วมกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าไวล์ดเอด (WILDAID) และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เผยแพร่โฆษณารณรงค์ชิ้นใหม่ เพื่อย้ำเตือนชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างแดน ว่า การนำผลิตภัณฑ์งาช้างที่ซื้อในต่างประเทศกลับเข้าจีนแม้เป็นของที่ระลึกหรือของฝาก เป็นสิ่งผิดกฎหมาย หลังผลการสำรวจจากองค์กรอนุรักษ์ชี้ ชาวจีนยังคงซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยไทย ฮ่องกง และสปป.ลาว ถือเป็นตลาดสำคัญที่ชาวจีนนิยมซื้อผลิตภัณฑ์งาช้าง

โฆษรณารณรงค์ชิ้นใหม่มีนายหวง เซวียน ดาราซื่อดังชาวจีนเป็นทูต แสดงเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร โดยกล่าวว่า การซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ป่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สัตว์หลายชนิดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ และย้ำเตือนว่า การนำผลิตภัณฑ์งาช้างเข้าประเทศ แม้เป็นของฝาก หรือของที่ระลึกถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยสื่อรณรงค์ชิ้นใหม่ จะเผยแพร่ตามสื่อสาธารณะอย่างสนามบิน สถานีรถไฟ และบริเวณด่านพรมแดนระหว่างจีน กับเมียนมาร์ สปป.ลาว และเวียดนาม ทั้งหมดนี้ถือเป็นการเปิดตัวสื่อรณรงค์ใหม่ในโอกาสที่รัฐบาลจีนประกาศปิดตลาดซื้อขาย

ผู้ตอบผลสำรวจชาวจีน 12% บอกว่าซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างในช่วง 6 เดือนเมื่อปีที่แล้ว เปรียบเทียบกับจำนวน 26% ที่ตอบว่าซื้อในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ก่อนที่จีนจะประกาศปิดตลาดซื้อขายงาช้าง ถือว่าความต้องการซื้อลดลง 54% ขณะเดียวกันชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่า 18% ซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างระหว่างการท่องเที่ยว โดยไทย และฮ่องกง ถือเป็นตลาดสำคัญที่ชาวจีนนิยมซื้อผลิตภัณฑ์งาช้าง นอกจากนั้น สปป.ลาว ยังเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญอีกแห่ง

รายงานการสำรวจตลาดในสปป.ลาวขององค์กร Save the Elephants พบร้านขายงาช้างมีจำนวนเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อของนักท่องเที่ยวจีน โดยผู้ค้าเกือบทั้งหมดเป็นชาวจีน และตั้งราคาเป็นเงินหยวน และเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางการลาวยึดผลิตภัณฑ์งาช้างผิดกฎหมายมากกว่า 73กิโลกรัม จากร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่งในเมืองหลวงพระบาง

“จากประสบการณ์การดำเนินโครงการรณรงค์มามากกว่าสิบปีในจีน องค์กรไวล์ดเอดเห็นว่าสื่อรณรงค์ลักษณะนี้สามารถสร้างความตระหนักและลดความต้องการผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าอย่างได้ผล โฆษณารรณรงค์ที่มีดาราดังอย่าง หวง เซวียน เป็นทูตจะเข้าถึงผู้คนหลายสิบล้าน และสานต่อความมุ่งมั่นที่จะยุติความสูญเสียที่เกิดจากความต้องการผลิตภัณฑ์งาช้างต่อไป” ปีเตอร์ ไนทส์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไวล์ดเอด กล่าว