โอเปกลดการผลิตหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

โอเปกลดการผลิตหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

ซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้นำในการปรับลดการผลิตของโอเปก โดยลดลง 468,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.5 ล้านบาร์เรล/วัน และซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายในการปรับลดการผลิตลงสู่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (18ม.ค.)ดีดตัวขึ้น 3.3% หลังมีรายงานระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนธ.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า(21ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์  หรือ 3.3%  ปิดที่ราคา 53.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 62.68 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสทะยานขึ้นประมาณ 2% ในสัปดาห์นี้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3

ทั้งนี้ โอเปก ออกรายงานประจำเดือนม.ค.ระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 751,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 31.6 ล้านบาร์เรล/วัน และเมื่อเดือนที่แล้ว โอเปก และกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

ขณะเดียวกัน การผลิตน้ำมันของลิเบียลดลง 172,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ to 928,000 บาร์เรล/วัน ส่วนการผลิตน้ำมันของอิหร่านลดลง 159,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับต่ำกว่า 2.8 ล้านบาร์เรล/วัน และขณะนี้อิหร่านกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 5 ของโอเปก จากเดิมอยู่ที่อันดับ 3 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งอาจจะเป็นการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทหรืออาจจะยกเลิกทั้งหมด โดยมีเป้าหมายที่จะลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ รวมทั้งเป็นการโน้มน้าวให้จีนยอมทำข้อตกลงการค้าทวิภาคี และเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน หลังจากที่ตลาดประสบกับความผันผวนอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน