เลขาธิการศาลยุติธรรม ระบุ ผู้พิพากษาฎีกามีกว่า 100 คน พร้อมพิจารณาคดีเลือกตั้ง พร้อมย้ำเชื่อมระบบหมายจับออนไลน์ ศาล-ตร-DSI ข้อมูลปลอดภัยไร้แฮคเกอร์ ระบุชั้นความลับยังมีระหว่าง จนท.ผู้ขอ ไม่ใช่เปิดเผยลงเว็บไซต์
ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.30 น. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงผลงานของศาลยุติธรรมที่ผ่านมา ซึ่งได้กล่าวย้ำถึงนโยบายของการเชื่อมฐานข้อมูลการออกหมายจับและผลการจับกุมตามหมายจับระหว่างศาลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่า ในส่วนของศาลมีความพร้อมโดยมีการจัดเก็บฐานข้อมูล หมายจับ , หมายค้น ในระบบฐานข้อมูลดิจิทัลทั้งหมด แทนการใช้กระดาษ ซึ่งศาลยุติธรรมทั่วประเทศสามารถเชื่อมโยงตรวจสอบข้อมูลการขอออกหมายจับกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการออกหมายจับหมายค้นมีประสิทธิภาพในลักษณะของความสะดวกรวดเร็ว หากเป็นในระบบเดิมที่ไม่ได้เชื่อมฐานข้อมูลกัน เมื่อมีการขอและออกหมายจับแล้ว กว่าที่เอกสารหมายจับส่งถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ช้าไปเพียง 5 นาที ผู้ต้องหาก็อาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีสถานีตำรวจทั้งหมด 1,400 กว่าแห่งทั่วประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกัน ซึ่งทราบว่ามีความพยายามและประชุมกันทุกสัปดาห์ ขณะที่ศาลประสานงานกับผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานแห่งชาติอยู่ตลอดเวลา คาดว่าในอนาคตจะมีความสมบูรณ์ ถือเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการปฏิบัติงานมากขึ้นและเป็นผลดีกับการบังคับใช้กฎหมาย ตนเชื่อมั่นว่าถ้าเราเริ่มต้นทำก็จะเห็นผลและมีความเปลี่ยนแปลงภายในเดือนนี้ โดยยืนยันว่าข้อมูลในการออกหมายจับก็ยังคงเป็นความลับระหว่างหน่วยงานที่ยื่นข้อมูล การขอออกหมายจับ ซึ่งหากมีความจำเป็นที่ศาลจะต้องไต่สวนบุคคลเพิ่มเติม ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งการปฏิบัติงานของกระบวนการยุติธรรมในส่วนนี้ก็จะต้องคุ้มครองสิทธิ์ของทุกบุคคลด้วย และมั่นใจว่าระบบที่กำลังจะดำเนินการให้เกิดขึ้นนี้จะมีความปลอดภัย เพราะมีระบบการป้องกันแฮกเกอร์ และมีระบบแบ็กอัพข้อมูลไม่ใช่เพียงแค่เว็บเซอร์วิส และให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลหมายจับดังกล่าวจะไม่มีการนำไปเปิดเผยบนเว็บไซต์ ที่จะรับรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของหมายจับ
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ของการที่จะมีเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ court marshal ได้ทันช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตํารวจศาล พ.ศ. .... หรือ Court Marshal อยู่ระหว่างอยู่ระหว่างการแปรญัตติของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากกฎหมายผ่านหน่วยงานนี้ก็จะอยู่ภายใต้สำนักงานศาลยุติธรรม ส่วนเรื่องงบประมาณยังไม่ได้กำหนด ต้องรอให้ผ่านความเห็นของ สนช. ก่อน จึงจะดำเนินการได้ แต่คาดว่าไม่มีปัญหา เพราะศาลจะบริหารจัดการงบประมาณอย่างประหยัด ให้มีประสิทธิภาพ ขณะที่กฎหมายดังกล่าวจะทำให้ระบบบริหารจัดการความปลอดภัยของศาลมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีเรื่องการติดตามจับผู้หนีหมายจับด้วย
เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อมของศาลฎีกาในคดีเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าจะกำหนดวันเลือกตั้ง ในช่วงเดือน มี.ค. แต่หลายฝ่ายยังมีความกังวลเรื่องการรับรองผลการเลือกตั้งว่าจะเสร็จทันเวลาหรือไม่ ดังนั้นหากจะต้องพิจารณาคดีเลือกตั้งของผู้สมัครหรือ กกต. ยื่นคำร้องเกี่ยวกับสิทธิการเลือกตั้ง ศาลจะสร้างความมั่นใจอย่างไร
นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ศาลมีความพร้อม 100 % อย่างช่วงปีที่ผ่านมา ก็มีคดีเลือกตั้ง สว. เข้ามาพิจารณาไปทั้งหมด 27 คดีซึ่งก็เสร็จทันภายในกรอบระยะเวลา สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะเกิดขึ้นทางศาลฎีกาได้ออกระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเรียบร้อยแล้ว มีความพร้อมตลอดเวลาหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น คดีจาก กกต. มาสู่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก็มีความพร้อมทั้งข้อกฎหมาย , บุคคลากร , กฎระเบียบ , ห้องพิจารณาไว้รองรับ ซึ่งจำนวนของผู้พิพากษาที่จะมาร่วมนั่งในองคณะก็ขึ้นอยู่กับปริมาณงานขณะนี้เราก็มีกว่า 100 คน ซึ่งเชื่อว่าผู้พิพากษาในศาลฎีกาสามารถรับมือกับคดีเลือกตั้งได้ไม่มีปัญหา แม้ว่ามีกรอบระยะเวลาจำกัด แต่ขั้นตอนกฎระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเขียนรองรับเพื่อให้การทำงานสามารถดำเนินการภายใต้รัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีมีข้าราชการในสำนักงานศาลยุติธรรม เข้าไปเกี่ยวข้องกับ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เลย ในการหลอกลวงตำรวจ 192 นาย ในพื้นที่ จ.เลย กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ เพื่อเอาเงินมาใช้ในการลงทุน โครงการบริหารหนี้ ทำให้สูญเงินกว่า 240 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้พิพากษาเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวน 3 ราย นั้น
นายสราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ ก็คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนจะแล้วเสร็จ โดยขณะนี้ได้ย้ายผู้พิพากษาทั้ง 3 คน ออกจากพื้นที่มาอยู่ในกรุงเทพฯ ศาลก็ดำเนินการโดยเร็วไม่ชักช้าถ้าเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ