แกว่งตัวโดยความเสี่ยงเชิงลบเริ่มสูงขึ้น

รัฐสภาอังกฤษลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี คาดจะมีการเสนอแผน Brexit ฉบับใหม่ให้รัฐสภาพิจารณาในวันที่ 21 ม.ค.62 แต่เราประเมินการขอแก้ไขร่างข้อตกลงกับทางสหภาพยุโรปเป็นเรื่องยากมาก และหากไม่สามารถผ่านร่างข้อตกลงฉบับใหม่ได้ จะนำไปสู่การลาออกหรือยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของการออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงรองรับ (No-deal Brexit) สูงขึ้น เรามองประเด็นดังกล่าวยังคงกดดันต่อตลาดต่อในระยะสั้น 

ประเมินปัจจัยภายนอกทยอยคลี่คลาย ภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐฯที่ยืดเยื้อมานานถึง 26 วัน จะกดดันให้รัฐบาลเร่งรีบในการหาทางออก ขณะที่จีนอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 8.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าสู่ระบบการเงิน และเตรียมประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ทำให้ภาพรวมปัจจัยภายนอกเป็นบวกต่อการลงทุนมากขึ้น

เงินทุนไหลเข้า แต่ยังถูกกดดันจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน ทิศทางเงินทุนไหลเข้าเป็นบวก และเริ่มเห็นการซื้อสุทธิติดกัน 5 วันทำการ ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือน และเราประเมินยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากทิศทางดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลสูง อย่างไรก็ตาม ทิศทางระยะสั้น SET Index ผันผวนจากการขายสุทธิปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเราประเมินความเสี่ยงขายทำกำไรจะอยู่ในกลุ่มหุ้นที่มีการถือครองมาก (Over-owned) หรือปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา อาทิ การเงิน, ปิโตรเคมี ดังนั้นกลุ่มที่มีการถือครองน้อย (Under-owned) หรือถูกลดน้ำหนักสะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว จะปลอดภัยมากกว่า อาทิ อาหาร, โรงกลั่น

ยังชอบค้าปลีก อาหาร เก็งกำไรโรงกลั่น ดิจิตอลทีวี แม้ผันผวน แต่กลุ่มพลังงานน่าจะเริ่มช่วยตลาด ยังชอบ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว ที่มีแนวโน้มฟื้นตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ ค้าปลีก CPALL ROBINS BJC, อาหาร TU CPF, ท่องเที่ยว MINT ERW AOT ส่วนกลุ่มไฟฟ้าและสาธารณูปโภค เราชอบ EGCO, BEM แต่ไม่ไล่ และเน้นทยอยสะสมหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวโดยความเสี่ยงเชิงลบเริ่มสูงขึ้น และอาจทำให้ต้องเพิ่มความระวังหรือชะลอการเก็งกำไรหาก SET Index ลดลงต่ำกว่า 1570 จุด ระยะสั้นปัจจัยเก็งกำไรเป็นบวกในกลุ่มอาหาร ท่องเที่ยว ดิจิตอลทีวี โรงกลั่น // หุ้นแนะนำวันนี้ TOP, CPF, MAJOR /เก็งกำไร MONO* (เป้า 1.95 ตัดขาดทุน 1.77), BA* (เป้า 13.50 ตัดขาดทุน 12.00)

แนวรับ 1566-1570 / แนวต้าน : 1582-1585 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

เวิลด์แบงก์ คาดศก.ไทยปีนี้โต 3.8% – ธนาคารโลก คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะชะลอการเติบโตมาที่ 3.8% จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ 3.9% เมื่อ ต.ค.61 ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 3.9% ในปี 63

สภาอังกฤษลงคะแนนให้ความไว้วางใจรัฐบาลเทเรซา เมย์ – สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 325-306 เสียง ให้ความไว้วางใจต่อรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

แบงก์ชาติจีนอัดเงินครั้งใหญ่ช่วงตรุษจีน – ธนาคารกลางจีนได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินของประเทศในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ โดยหวังผ่อนคลายภาวะขาดแคลนสภาพคล่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

MTC – MTC ได้ออกมาแจงว่าบันทึกการลงบัญชีโดยนำเงินค่างวดไปตัดเงินต้นและดอกเบี้ยค้างจ่ายพร้อมกันตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่แล้ว จึงไม่มีผลกระทบต่อการรับรู้รายได้และดอกเบี้ยที่ลดลง

ประเด็นติดตาม: 18 ม.ค. – กสทช. เผยแพร่ร่างหลักเกณฑ์คืนคลื่น 700MHz / 22 ม.ค. – ครม.พิจารณาเกณฑ์คุมราคายา

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)