เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 350 เขต รวมถึงการเปิดนโยบายพรรคฯ ในวันที่ 17 ม.ค. ที่จังหวัดบุรีรัมย์ว่า จะมีการเปิดวิสัยทัศน์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ซึ่งตอนนี้ที่จังหวัดบุรีรัมย์เขาตื่นเต้นกันมาก จะมีคนหลายหมื่นมาร่วมงานแน่นอน และคนเหล่านี้จะเป็นเสียงสะท้อนจากบุรีรัมย์ไปสู่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพราะเราไม่ได้ทำเฉพาะที่บุรีรัมย์ แต่บุรีรัมย์เหมือนเป็นบ้านเกิด เป็นแลนมาร์คที่สำคัญที่สามารถอธิบายถึงความสำเร็จของพรรคภูมิใจไทย ที่จะสะท้อนไปถึงภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า งานดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าที่มีการประชุมผู้สมัคร ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้สมัครของพรรคจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้ง 350 เขต รวมถึงแกนนำคนสำคัญทั้งหมดของพรรคฯ ซึ่งไฮไลต์ของงานเวลา 15.00น.ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (สนามแข่งรถ) ซึ่งเราจะเป็นพรรคแรกที่เปิดตัวนโยบายแบบไม่กั๊ก และโชว์ตัวผู้สมัครทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นการที่พรรคเปิดตัววันที่ 17 ม.ค. หมายความว่าพรรคมีความพร้อมที่เข้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ เรากล้าพูดชัดเจนเพราะเราทำการเมืองแบบไม่มีกั๊ก
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า โดยนโยบายคร่าวๆ ที่หัวหน้าพรรคฯ และเลขาฯ จะใช้เป็นแคมเปญหาเสียง แน่นอนหัวใจหลักของเรา คือ “ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน” โดยมีแนวทางที่สำคัญคือ ต้องทวงคืนกำไรให้ชาวนา การออกกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนใต้ การแก้กฎหมายประมงเพื่อทางรอดชาวประมงไทย คนทำมาหากินต้องขับแกร็บ แบบถูกกฎหมาย การยกระดับอสม.เป็นหมอประจำบ้าน คนไทยเรียนออนไลน์ฟรีตลอดชีวิต รวมถึงการแก้หนี้ กยศ. และต้องทวงคือกำไรให้ชาวสวนปาล์ม เหล่านี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ในวันจริงทั้งหัวหน้าพรรคฯ และเลขาฯ จะได้เจาะลึกแต่ละหัวข้อว่าทำได้จริงอย่างไร เกิดประโยชน์อย่างไร เมื่อได้ฟังในรายละเอียดแล้ว ตนเชื่อว่าประชาชนจะชื่นชอบในแนวนโยบาย และแนวคิดของพรรค เพราะทุกอย่างที่เราคิด ที่เราทำ ได้นำมาจากปัญหาจริง โดยเราต้องการเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง
“ทั้งท่านหัวหน้าพรรคฯ และท่านเลขาธิการพรรคฯ รวมถึงแกนนำของพรรค ไม่เคยออกมาตอบโต้การเมือง จนทำให้หลายคนคิดไปว่าเราไปทำอะไรอยู่ ซึ่งนี่คือคำตอบสิ่งที่เงียบหายไป คือเราได้นโยบายเพื่อพี่น้องประชาชน โดยไม่ได้มุ่งเน้นตอบโต้ทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะประชาชนเห็นด้วยกับเราคือการก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
