สรรพากรยันเรียกภาษีค้างหนุ่มใหญ่ถูกต้อง

นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี โฆษกกรมสรรพากรเปิดเผยกรณีนายไพบูลย์ ศรีทอง อายุ 43 ปี ออกมาระบุถึงกรณีที่สรรพากรพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีออกหนังสือเตือนให้นำเงินภาษีอากรค้างของบริษัท มาแทน เฟอร์นิเจอร์ จำกัดไปชำระทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว โดยยืนยันว่า การเรียกเก็บภาษีดังกล่าวนั้น เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว

เขากล่าวว่า นายไพบูลย์ มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในบริษัทดังกล่าว และเนื่องจาก บริษัท อยู่ระหว่างการชำระบัญชี เนื่องจาก กำลังปิดกิจการ ขณะที่ บริษัทยังมียอดค้างชำระภาษี ดังนั้น กรมสรรพากรจึงเรียกเก็บภาษีของบริษัทดังกล่าวไปยังนายไพบูลย์ ในฐานะที่เป็นผู้ชำระบัญชี

ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวก่อตั้งในช่วงปี 2537-38 ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ ดำเนินกิจการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปลี่ยนตัวกรรมการมาตลอด โดยนายไพบูลย์นี้ เข้ามาเป็นกรรมการนับตั้งแต่ปี 2557

ในช่วงที่บริษัทดำเนินการกิจการนั้น ทางกรมสรรพากรได้เข้าประเมินภาระภาษี และเชิญให้มาชำระภาษี แต่ไม่มีผู้แทนรายใดจากบริษัทเข้ามาชำระภาษี ทำให้ต้องออกหมายเรียกถึง 6 ครั้ง ทั้งนี้ ในช่วงปี 2560 บริษัทกำลังปิดกิจการ และ อยู่ในช่วงชำระบัญชี ทางกรมสรรพากรจึงออกหมายเรียกชำระภาษีค้างกว่า 300 ล้านบาท ไปยังนายไพบูลย์

“เราพบว่า บริษัทดังกล่าวค้างชำระภาษีบวกเบี้ยปรับเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท จึงต้องเรียกให้มาชำระภาษี โดยนายไพบูลย์เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท จะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ในการชำระหนี้ค้างตามกฎหมาย ส่วนนายไพบูลย์จะเป็นกรรมการหุ่นเชิดหรือไม่อย่างไร หากมีหลักฐานมาแสดง กรมฯพร้อมจะให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม กรมฯยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีหลักฐานที่นายไพบูลย์เคยยอมรับว่า เป็นกรรมการในบริษัทดังกล่าวจริง”