ราคาน้ำมันดิบดิ่งกว่า2%หลังเผยข้อมูลศก.จีนซบเซา

ราคาน้ำมันดิบดิ่งกว่า2%หลังเผยข้อมูลศก.จีนซบเซา

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันจันทร์ (14ม.ค.)ปรับตัวลงกว่า 2% หลังการเปิดเผยตัวเลขการค้าที่ซบเซาของจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมันของจีน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 2.1%  ปิดตลาดที่ 50.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดตลาดที่ราคา 59 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า การส่งออกดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนธ.ค. ขณะที่การนำเข้าประสบภาวะหดตัว

นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าตลาดน้ำมันจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในปีนี้ แต่นายบาร์คินโด แสดงความกังวลว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก

“เรามีความกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าที่ยังดำเนินอยู่ ซึ่งการดำเนินการใดๆที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าก็อาจกระทบต่อการขยายตัว และอุปสงค์ของพลังงาน โดยนอกจากสหรัฐแล้ว จีนและอินเดียนับเป็นประเทศที่มีการใช้พลังงานรายใหญ่ของโลก” เขากล่าว

ปัจจุบัน จีน เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยการซื้อน้ำมันของจีนเทียบเท่ากับสัดส่วน 18.6% ของการนำเข้าน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2560 ขณะที่อินเดียมีแนวโน้มเป็นประเทศที่จะแซงหน้าจีนในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลกในปี 2567

ด้านนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรจะทำตามคำมั่นสัญญาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในปีนี้เพื่อสร้างความสมดุลในตลาด