ดัชนีมีโอกาสเดินหน้าทดสอบ 1604-1620 อีกครั้ง หลังย่อปรับฐานแล้ว

จากการที่เนื้อหารายงานการประชุมเฟดแสดงความเห็นของกรรมการส่วนใหญ่ออกไปในทิศทางสนับสนุนการผ่อนคลาย ขณะที่ประธานเฟด กล่าวสุทนทรพจน์ล่าสุด ยืนยันการดำเนินนโยบายอย่างยืดหยุ่น อย่างไรก็ตามยังคงยืนยันการปรับลดงบดุล (ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวในทางนโยบายการเงินแบบตึงตัว) ทำให้สัญญาณโดยรวมเป็นบวกแบบอ่อนๆ กับภาพการลงทุน

นักลงทุนในประเทศอาจจะกำลังลดน้ำหนักหุ้นปลอดภัย แม้ปัจจัยลบอย่างเรื่องการควบคุมราคาเวชภัณฑ์ของกลุ่มการแพทย์ และการเข้าทำสัญญาระงับข้อพิพาทของ DTAC ที่กระทบจิตวิทยาของกลุ่มสื่อสาร ดูเป็นปัจจัยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม แต่การที่นักลงทุนตอบรับต่อปัจจัยลบดังกล่าวอย่างมากอาจแสดงให้เห็นถึงนักลงทุนกำลังพยายาม “หมุนกลุ่มลงทุน” โดยกลับมาเพิ่มน้ำหนักหุ้นในกลุ่มเน้นการเติบโต ที่ปรับลดลงมามาก โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงาน อาหาร ฯลฯ ขณะที่ลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มปลอดภัยที่ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด (Outperform) ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีโอกาสเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดในภาพรวม

พลังงาน ค้าปลีก อาหาร เป็นบวก เรามองหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก รวมถึง อาหาร มีแนวโน้มฟื้นตัว จากปัจจัยหนุนของราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว เงินทุนต่างชาติที่มีโอกาสไหลเข้า และความคาดหวังจากการเลือกตั้ง หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ พลังงาน PTT PTTEP, ธนาคาร BBL KBANK SCB, ท่องเที่ยว MINT ERW AOT, อาหาร TU CPF, และค้าปลีก CPALL ROBINS BJC กลุ่มไฟฟาและสาธารณูปโภค ยังน่าสนใจ แต่ไม่ไล่ และเน้นทยอยสะสม หรือซื้อเมื่ออ่อนตัว

ภาพรวมกลยุทธ์: เดินหน้ากลับขึ้นทดสอบ 1604-1620 จุด หลังปรับฐานย่ำ 1580-1590 แล้ว เน้นเลือกหุ้นที่ลงแรง อาทิ พลังงาน โรงกลั่น ระยะสั้นปัจจัยเก็งกำไรยังเป็นบวกมากในกลุ่มอาหาร ดิจิตอลทีวี และท่องเที่ยว // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, TU, BCP /เก็งกำไร MINT* (เป้า 38 ตัดขาดทุน 34.50), AOT* (เป้า 68 ตัดขาดทุน 65)

แนวรับ 1580 / แนวต้าน : 1604-1620 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

คาดจัดเลืกตั้งได้ภายใน มี.ค. – รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม คาดประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส. ลงในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือน ม.ค.นี้ และกำหนดวันเลือกตั้งไม่เกิน มี.ค.

แบงก์ชาติไม่กังวลเงินเฟ้อหลุด 1% เหตุเศรษฐกิจยังโต ปชช.ใช้จ่ายตามปกติ – ผู้ว่า ธปท.ย้ำ ไม่กังวลหากอัตาเงินเฟ้อในปีนี้จะหลุดกรอบล่างของคาดการณ์ที่ 1-4% เนื่องจากประชาชนยังจับจ่ายใช้สอยตามปกติ ขณะที่เศรษฐกิจโตตามศักยภาพ

เวิลด์แบงก์คาดจีนโตแกร่งในปี 62 – ผู้บริหารเวิลด์แบงก์มอง เศรษฐกิจจีนปี 61 และ 62 จะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมาก โดยมีปัจจัยหนุนหลักมาจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

เฟด ยืนนโยบายการเงินแบบยืดหนุ่น พร้อมเตือนผลระทบจากภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อ – ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยืนยันนโยบายการเงินแบบยืดหยุ่น พร้อมเตือนหากภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อจะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไร้ทิศทาง

DTAC – เข้าทำสัญญาระงับข้อพิพาทในอดีตจากสัมปทานกับ กสท. มูลค่า 9,500 ลบ. โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนส่วนแรก 6,840 ลบ. ให้ก่อน ส่วนที่เหลือจะชำระเมื่อกระบวนการถอนคดีที่ค้างอยู่ในศาลเสร็จสิน

ประเด็นติดตาม: 11 ม.ค. – ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์, ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. / 22 ม.ค. – ครม.พิจารณาเกณฑ์คุมราคายา

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)