นครศรีฯ-สุราษฎร์ยังกระทบพิษพายุปาบึก ปชช.เดือดร้อน1.9แสนครัวเรือน

นครศรีฯ-สุราษฎร์ยังกระทบพิษพายุปาบึก ปชช.เดือดร้อน1.9แสนครัวเรือน

กอปภ.ก.รายงานยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก 2 จังหวัด ปชช.เดือดร้อนราว1.9แสนครัวเรือน ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานอิทธิพลพายุโซนร้อน "ปาบึก" ส่งผลกระทบใน 23 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 21 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 36 อำเภอ 221 ตำบล 1,815 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ซึ่ง กอปภ.ก. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้อำนวยการกลาง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 - 8 ม.ค.62 อิทธิพลจากพายุโซนร้อน "ปาบึก" ส่งผลกระทบในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 105 อำเภอ 502 ตำบล 3,201 หมู่บ้าน 133 ชุมชน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 107 หลัง เสียหายบางส่วน 11,783 หลัง ประชาชนได้รับผลกระทบ 231,606 ครัวเรือน 746,062 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ประชาชนยังอยู่อาศัยในศูนย์อพยพจังหวัดนครศรีธรรมราช 3 จุด รวม 335 คน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 21 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 36 อำเภอ 221 ตำบล 1,815 หมู่บ้าน

แยกเป็น นครศรีธรรมราช เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 23 อำเภอ ได้แก่ อ.หัวไทร อ.ปากพนัง อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.นบพิตำ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.อำเภอทุ่งสง อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งใหญ่ อ.พิปูน อ.พรหมคีรี อ.ช้างกลาง อ.ถ้ำพรรณรา อ.ฉวาง อ.ลานสกา อ.พระพรหม อ.ชะอวด อ.จุฬาภรณ์ อ.เชียรใหญ่ อ.นาบอน และอ.บางขัน รวม 155 ตำบล 1,400 หมู่บ้าน 105 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 179,868 ครัวเรือน 539,847 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยประชาชนยังอยู่อาศัยในศูนย์อพยพ 3 จุด รวม 335 คน ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเปิดให้บริการตามปกติแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศหยุดเดินรถช่วงสถานี เขาชุมทอง – สถานีนครศรีธรรมราช โดยมีรถรับส่งผู้โดยสารจากสถานีนครศรีธรรมราชไปขึ้นรถไฟที่เขาชุมทอง ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว

ส่วนที่สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.ดอนสัก อ.เกาะพะงัน อ.บ้านนาเดิม อ.พุนพิน อ.เกาะสมุย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.บ้านนาสาร อ.พระแสง อ.ท่าฉาง อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.วิภาวดี รวม 66 ตำบล 415 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,969 ครัวเรือน 35,630 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง เสียหายบางส่วน 124 หลัง ท่าอากาศยานเปิดให้บริการตามปกติ ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว

ทั้งนี้ กอปภ.ก โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์ภัยเริ่มคลี่คลายแล้ว ให้สำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ภาพ-fb/armyprcenter