'สาวซาอุฯ' เผยต้องการลี้ภัยแคนาดา

'สาวซาอุฯ' เผยต้องการลี้ภัยแคนาดา

สาวชาวซาอุฯ วัย 18 ปีที่หลบหนีมายังประเทศไทยโดยอ้างว่ากลัวถูกครอบครัวฆ่า เผยต้องการลี้ภัยในแคนาดา ขณะที่ “ยูเอ็นเอชซีอาร์” กำลังสัมภาษณ์ก่อนส่งตัวไปประเทศที่สาม

นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัลกูนุน ชาวซาอุดีอาระเบียที่ทางการไทยเพิ่งอนุญาตให้เข้าประเทศเมื่อค่ำวานนี้ (7 ม.ค.) หลังจากติดค้างที่สนามบินเกือบ 48 ชั่วโมงภายใต้คำขู่ส่งตัวกลับ ทวีตวันนี้ (8 ม.ค.) ว่า เธอต้องการขอลี้ภัยในแคนาดา พร้อมเรียกร้องให้นักข่าวแคนาดาและพลเมืองแคนาดาทุกคนช่วยเหลือเธอ และร้องขอรัฐบาลแคนาดาให้ปกป้องเธอ



ด้านเจ้าหน้าที่ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ประจำประเทศไทย อยู่ระหว่างการสัมภาษณ์นางสาวกูนุนในวันนี้ หลังจากพบกับเธอเมื่อวาน

“อาจต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อจัดการกับกรณีนี้และกำหนดการดำเนินการขั้นต่อไป” นายจูเซปเป เดอ วินเซนตีส ผู้แทนยูเอ็นเอชซีอาร์ประจำประเทศไทย แถลง และว่า “เราซาบซึ้งอย่างยิ่งที่ทางการไทยไม่บังคับส่งตัวกูนุนกลับไปและกำลังขยายความคุ้มครองให้กับเธอ”

สมาชิกรัฐสภาและนักเคลื่อนไหวหลายคนในออสเตรเลียและอังกฤษเรียกร้องให้รัฐบาลของพวกเขามอบสถานะลี้ภัยแก่นางสาวกูนุน

ขณะนี้ นางสาวกูนุนพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ในขณะที่คำขอสถานะลี้ภัยของเธอกำลังถูกดำเนินการโดยยูเอ็นเอชซีอาร์ก่อนที่เธอจะสามารถขอลี้ภัยในประเทศที่สาม

กรณีดังกล่าวทำให้ทั่วโลกกลับมาให้ความสนใจกับกฎระเบียบทางสังคมอันเข้มงวดของซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง รวมถึงข้อกำหนดที่ว่า ผู้หญิงต้องได้รับอนุญาตจาก “ผู้พิทักษ์ชาย” ก่อนถึงจะเดินทางได้ สิ่งซึ่งกลุ่มสิทธิระบุว่าอาจทำให้ผู้หญิงและเด็กสาวหลายคนต้องกลายเป็นนักโทษของครอบครัวที่ชอบทารุณกรรม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลริยาดกำลังเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษจากพันธมิตรตะวันตกเกี่ยวกับการสังหารนักข่าวคนหนึ่งที่สถานทูตซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลเมื่อเดือนต.ค. 2561 และเกี่ยวกับปัญหาด้านมนุษยธรรมในเกิดจากสงครามของพวกเขาในเยเมน

สถานการณ์ของนางสาวกูนุนถูกเปิดโปงในสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้มีกระแสสนับสนุนจากทั่วโลก ซึ่งโน้มน้าวให้ทางการไทยเปลี่ยนใจไม่ส่งเธอกลับไปยังซาอุดีอาระเบีย

ขณะที่สถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยปฏิเสธรายงานที่ว่า รัฐบาลริยาดขอให้ส่งนางสาวกูนุนเป็นผู้ร้ายข้ามแดน

ในออสเตรเลีย ส.ว.ซาราห์ แฮนสัน ยัง เรียกร้องผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้รัฐบาลของเธอออกหนังสือเดินทางฉุกเฉินให้นางสาวกูนุน เพื่อให้เธอสามารถบินมาออสเตรเลียเพื่อขอลี้ภัยได้

ด้านกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย แถลงว่า กำลังจับตากรณีนี้อย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำว่า “คำอ้างของนางสาวกูนุนที่ว่าเธออาจถูกทำร้ายหากเธอกลับไปยังซาอุดีอาระเบียเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่ง”