'บิ๊กโจ๊ก' ลงนามบันทึกข้อตกลงในการป้องกันอาชญากรรม

'บิ๊กโจ๊ก' ลงนามบันทึกข้อตกลงในการป้องกันอาชญากรรม

"บิ๊กโจ๊ก" ลงนามบันทึกข้อตกลงในการป้องกันอาชญากรรม

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 62 ที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในการป้องกันอาชญากรรมการวิจัยและพัฒนาบุคลากรตำรวจ ระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเคบังซาน โดยภายในงานมีพล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร., เอกอัคราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ตัน สรี ดาโต๊ะ สรี โมฮัมหมัด ฟูซี บิน ฮารูน (Tan Sri Dato' Sri Mohammad Fuzi bin Harun) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย และ ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด ซุลฟีการ์ บิน อาหมัด (Dato' Mohd Zulfikar bin Ahmad) ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงและหนังสือเดินทาง กรมตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ตลอดจนข้าราชการตำรวจในสังกัดำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า โครงการประชุมวิชาการ เรื่อง “การใช้เทคโนโลยีในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม” Police Technology & Crime Prevention คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม คณาจารย์ นักศึกษาบัณฑิตศึกษา รวมทั้งผู้สนใจทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการจัดประชุมทางวิชาการ รวมทั้งการลงนามในบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาในสาขาอาชญาวิทยา ระหว่างมหาวิทยาลัยเคบังซาน มาเลเซีย กับมหาวิทยาลัยมหิดลในวันนี้ ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุน บทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ในการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งยกระดับการเรียนการสอน ด้านอาชญาวิทยาในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้เป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ด้านการศึกษาระหว่างสองประเทศ เพื่อให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ ให้กับนักศึกษาในหลักสูตรศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม (ภาคพิเศษ) ซึ่งเป็นหลักสูตร ที่ผลิตบุคลากรด้านกระบวนการยุติธรรม ที่สามารถนำความรู้ทางวิชาการไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ซึ่งผมเองเป็นทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ผบช.สตม กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การป้องกันอาชญากรรม เป็นหลักการสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกนาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 20 ปี อีกทั้งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมทางวิชาการและพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการที่หน่วนงานรัฐจะแสวงหาความร่วมมือกันในการปราบปราบอาชญากรรม