ฟอร์บส์ชู“สี จิ้นผิง”ผู้ทรงอิทธิพลอันดับ1โลกปี2561

ฟอร์บส์ชู“สี จิ้นผิง”ผู้ทรงอิทธิพลอันดับ1โลกปี2561

ฟอร์บส์ จัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลของโลก 5 อันดับประจำปี 2561 โดยให้นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเป็นทรงอิทธิพลมากที่สุดด้วยผลงานอันโดดเด่นเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ตามมาเป็นอันดับ2

ทั้งนี้ ขณะที่บรรดาผู้นำโลกตะวันตก ยังคงลังเลเกี่ยวกับแนวทางนโยบายการดำเนินงานของตนในอนาคต ปธน.สี จิ้นผิง สามารถสร้างประเทศจีน ให้กลายเป็นประเทศผู้นำด้านการค้า และมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง 

นอกจากด้านการค้าแล้ว ปธน.สี จิ้นผิง ยังสร้างบทบาทความท้าทายด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีให้กับผู้นำตลาดโลกอย่างสหรัฐ พร้อมกับข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของลัทธิสังคมนิยมเชิงวิทยาศาสตร์ ด้วยข้อเท็จจริงที่ยากจะโต้แย้งได้

ในช่วงปี2561 อำนาจของของปธน.สี จิ้นผิง แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก โดยเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา สภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) มีมติเห็นชอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการยกเลิกข้อกำหนดที่เคยระบุว่า ประธานาธิบดีจีนดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัย หรือ 10 ปี ซึ่งเป็นการปูทางให้ปธน.สี ครองตำแหน่งปธน.ของจีนต่อไป โดยไม่มีกำหนดวาระ ทำให้เขามีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้นทั้งในประเทศและเวทีโลก

ส่วนนายทรัมป์ ซึ่งชูนโยบายอเมริกาต้องกมาก่อน ( America First) ได้สร้างความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์โลก รวมถึงสร้างความประหลาดใจให้กับกลุ่มนักการเมืองและนักธุรกิจระดับโลกเป็นอย่างยิ่ง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ บังคับใช้มาตรการใหม่ในด้านต่างๆ รวมไปถึงการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในตัวเขามากมาย 

อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ ได้กล่าวตอบโต้ในประเด็นดังกล่าวว่า พร้อมยืนยันว่าสหรัฐจะสนับสนุนการค้าเสรี ภายใต้เงื่อนไขของความยุติธรรมและการเอื้อประโยชน์ต่อกัน

ในปีนี้ ปธน.ทรัมป์ สามารถชูผลงานโดดเด่นในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การจ้างงาน การต่อสู้กับการก่อการร้าย รวมไปถึงการเจรจาสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์กับเกาหลีเหนือ แม้ว่ายังคงไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมในประเด็นเกี่ยวกับผู้อพยพ การต่างประเทศ และการบริหารรัฐบาล

ส่วนอันดับ3 นิตยสารฟอร์บ ยกให้เป็นของนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ อันดับ 4  นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเป็นแชมป์ผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฉบับนี้ติดต่อกัน 8 ปีแล้ว  และอันดับ5 คือ นายซัลมาน คาช็อกกี คอลัมน์นิสต์ชาวซาอุดิอาระเบียที่ถูกลอบสังหาร