ทหารหัวร้อนย่องเข้ามอบตัวแล้ว

จากกรณี ร.ต.อ.ปรัชชา แก้วจักร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากนายอำนาจ วิมล อายุ 54 ปี พร้อมนายสุวภัทร วิมล อายุ 19 ปี บุตรชาย นักท่องเที่ยวชาวจังหวัดนนทบุรี ได้นำคลิปภาพกล้องวงจรปิดหน้ารถของตัวเอง เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ โดยคลิปภาพกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน งข 7510 เชียงใหม่ ที่พยายามขับรถปาดจากเลนขวาเข้ามายังเลนซ้ายและตะโกนให้รถของนายอำนาจ จอด

จากนั้นมีชายหัวเกรียน สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เดินมาจากรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้ายาริส ซึ่งรถของนายอำนาจ ก็มีพ่อ แม่ ลูก ลงจากรถไปคุยด้วย ขณะที่ชายหัวเกรียนได้อ้างตัวเป็นทหาร ได้เดินเข้ามาพร้อมถืออาวุธเข้ามาข่มขู่ และเอาปืนจ่อ ทั้งครอบครัว เหตุเกิดบริเวณถนนโชตนา แม่ริม-ฝาง หมู่ 1 ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 31 ธ.ค.ที่กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พล.ต.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผบ.พล.ร.7 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ได้เรียกทหาร ที่เป็นข่าวมาทำการสอบสวน พร้อมกับผู้ปกครอง ซึ่งจากการสอบถามเบื่องต้นโดยขณะนี้ได้เรียกคู่กรณีมาเจรจากันแล้วซึ่งทุกอย่างจบลงด้วยดี ส่วนในเรื่องของคดีให้ไปพบกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ จากนั้นจะส่งตัวกลับต้นสังกัดเดิม ที่ จ.พิษณุโลก เนื่องจากได้ย้ายมาช่วยราชการที่ จ.เชียงใหม่ และยังอยู่ในช่วงรายงานตัว มาก่อเหตุขึ้นเสียก่อน

“เรื่องที่เกิดขึ้นได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางทหารเราก็มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ทหารเราไม่ปกป้องคนผิด เรามีบทลงโทษวินัยร้ายแรง ตามความผิด ส่วนตัวทหารตอนนี้จะเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่ริม และหลังการดำเนินการทางคดีความที่เกิดขึ้น ทางเราก็จะส่งตัวกลับต้นสังกัด และดำเนินการตามความผิดทางวินัยต่อไป”พล.ต.บรรณวัฒน์ กล่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.ที่สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ร.ต.อ.ปรัชชา แก้วจักร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.แม่ริม ได้รับมอบตัว สิบเอก จีระพันธุ์ เติมยศ อายุ 35 ปี สังกัดร้อย.ลว.ไกล กองพลทหารราบที่ 4 จ.พิษณุโลก ช่วยราชการกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีนายทหารพระธรรมนูญ นำตัวมาส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนปากคำเบื้องต้น ก่อนนายทหารพระธรรมนูญ ได้พาตัวไปดำเนินการทางวินัยของทหารที่ค่ายกาวิละ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นไม่ใช่คดีความผิดซึ่งหน้า เมื่อผู้ต้องมาพบเจ้าหน้าที่่ตำรวจได้เพียงแต่แจ้งข้อหา“ข่มขู่ให้เกิดความกลัว,พกปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”แล้วปล่อยตัวไปชั่วคราว ส่วนคดีวินัยก็เป็นหน้าที่ของทหารต้นสังกัดจะพิจารณาลงโทษเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บิดาของผู้ก่อเหตุและญาติได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน พร้อมกับผู้เสียหายและได้เข้าไปพูดคุยกับพนักงานสอบสวน จากนั้นทางภรรยาของผู้ต้องหาที่พึ่งจะมีลูกน้อยด้วยกัน ได้คุกเข่าขอขมากับผู้เสียหายในเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด