sideway

sideway

เลือกเก็งกำไรรายตัว

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวันทำการก่อนหน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดลบ หลังเปิดบวกได้แข็งแกร่งในช่วงเช้า โดยหุ้น BDMS ได้รับข่าวลบเรื่องการควบคุมค่ารักษาพยาบาลทำให้อ่อนตัวลงถึง 6.7% ส่วนหุ้นใหญ่อื่นๆ มีแรงเทขายในช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคโดยรวมที่ปิดบวก

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ sideway แนวต้าน 1550/1565 จุด แนวรับ 1540/1528 จุด โดยคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลหยุดยาวช่วงปีใหม่ โดยในเดือน ม.ค. ปีหน้ามีประเด็นสำคัญทั้งจากในและต่างประเทศที่ต้องจับตาดู ได้แก่ 1) การปิดรัฐบาลบางส่วนของสหรัฐฯ ที่คาดยืดเยื้อไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 3 ม.ค. 2)การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงหากผลการเจรจาออกมาเชิงบวก 3) การลงมติข้อตกลง Brexit ของรัฐสภาอังกฤษในช่วงกลางเดือน ม.ค. ที่มีแนวโน้มสูงที่จะไม่ผ่านซึ่งทำให้ประเด็น Brexit มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น และ 4) การเมืองในประเทศ ซึ่งหาก กกต. มีการประกาศวันเลือกตั้งตาม timeline คือ ช่วงต้นเดือน ม.ค. คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย และน่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าบางส่วน (ดูรายละเอียดในรายงาน Yearly Report 2019)

ประเด็นสำคัญวันนี้

สหรัฐฯ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยดัชนี S&P500 ปิดบวก 0.86% จากระหว่างวันที่อ่อนตัวลงไปถึง -2.8% โดยแรงซื้อเข้าหนุนในช่วงท้ายตลาด โดยหุ้นกลุ่มวัสดุและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

โลก: โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน เผยจีนและสหรัฐฯ มีแผนที่จะเจรจาการค้าต่อหน้าในเดือนหน้า เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน โดยก่อนหน้านี้สำนัก Bloomberg รายงานว่า คณะผู้แทนสหรัฐฯ จะเดินทางไปเยือนจีนในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 7 ม.ค. ปีหน้า

น้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาอ่อนตัว 3.5% ปิดที่ 44.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นแรงวันก่อนหน้า หลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 6.92 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่ EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้

กลยุทธ์

        เลือกเก็งกำไรรายตัว

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

         หุ้นมีข่าวบวก ได้แก่ CK KKP RS WHA BGRIM

         Derivatives: Wait & See หากถือสถานะข้ามปีให้เผื่อเงินประกันอย่างน้อย 3 เท่าจากที่กำหนดขั้นต่ำ (ดูรายละเอียดใน KTZ-D)