เรายังเน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นปลอดภัย

เรายังเน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นปลอดภัย

ประเมินหุ้นมีโอกาสอยู่ในช่วงท้ายของความผันผวน ช่วงสั้นหุ้นปลอดภัยยังโดดเด่น  

ความกังวลตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้งจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2561 และ 2562 ลงเหลือ 3.0% และ 2.3% (จาก 3.1% และ 2.5%) ขณะที่ธนาคารโลก ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปี 2562 เหลือ 6.2% (จาก 6.5%) ส่งผลกระทบทั้งต่อทั้งการลงทุนในตราสารทุน และสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ และทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงการลงทุนเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น เราประเมินราคาทองคำที่ปรับขึ้น สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เริ่มจำกัด และการอ่อนค่าในอนาคตของค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อค่าเงินและเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่

หุ้นไทยยังผันผวนในกรอบ 1580-1600 จุด แม้จะยังไรปัจจัยบวกที่ชัดเจน แต่ Valuation ของหุ้นไทยในระดับ PER 13.5 เท่า ซึ่งเป็นกรอบล่างของการซื้อขายในระยะ 5 ปี ประกอบกับแนวโน้มที่เฟดมีโอกาสจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกปีจะเป็นปัจจัยหนุนในช่วงต่อไป เราประเมินตลาดหุ้นมีโอกาสอยู่ในช่วงปลายความผันผวนก่อนปรับดีขึ้นต่อไป

กลุ่มโรงกลั่น – ระวังผลการดำเนินงานไตรมาส 4/61 ที่น่าจะอ่อนแอ และอาจมีผลการดำเนินงานพลิกเป็นขาดทุนจากราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลงทำให้ขาดทุนสต็อค ขณะที่โรงกลั่นส่วนใหญ่ จะมีการปิดซ่อมบำรุงในช่วงปี 2562 (ทั้ง TOP, SPRC) ทำให้ผลการดำเนินงานปกติส่วนใหญ่ชะลอตัวลง โดยคนที่ไม่ปิดซ่อมบำรุงมี BCP และ ESSO แนะนำทยอยสะสม BCP

ภาพรวมกลยุทธ์: เรายังเน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นปลอดภัย โดยเฉพาะไฟฟ้า ค้าปลีก โดยหุ้นที่เราชอบได้แก่ GPSC, EGCO, GULF, CPALL รวมถึงทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร ที่มองว่าโมเมนตัมของราคาจะยังคงได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น BBL, KTB, SCB หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, DTC*, EASTW*, AEONTS*// หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC, CPALL, EGCO /เก็งกำไร AAV* (เป้า 4.40 ตัดขาดทุน 4.18), SCB (เป้า 150 ตัดขาดทุน 135)

แนวรับ 1580-1590 / แนวต้าน : 1605-1615 จุด สัดส่วน : เงินสด 20% : พอร์ตหุ้น 80%

ประเด็นการลงทุน

เวิลด์แบงก์หั่นคาดการณ์ศก.จีนเหลือโต 6.2% ในปีหน้า – เวิลด์แบงก์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนปี 62 ลงสู่ระดับ 6.2% (จากคาดการณ์เดิมที่ 6.5%) จากผลกระทบความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่เพิ่มขึ้น

ธปท.มองเศรษฐกิจไทยโตผ่านจุดสูงสุดแล้ว – ธปท.ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยผ่านจุดสูงสุดแล้ว จับตาปีหน้าผันผวนจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่ อาทิ สงครามการค้า, เศรษฐกิจจีนชะลอตัว, ความผันผวนของตลาดการเงินโลก, และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ

จีนคงดอกเบี้ย – ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นที่ระดับเดิม หลังเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยวานนี้ พร้อมเปิดตัวเครื่องมือทางการเงินใหม่ (TMLF) หวังกระตุ้นปล่อยกู้ภาคเอกชน

หอการค้าประเมินส่งออกไทยปีหน้าโต 6.1-7.5% – ม.หอการค้า ประเมินผลกระทบของสงครามการค้าฉุดส่งออกไทยปีหน้าเหลือโต 6.1-7.5% แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัว-ภาครัฐฯขยายตลาด

BEM (Not rated) – การทางพิเศษเจรจาข้อพิพาทกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยมีแนวโน้มที่จะเป็นการขยายสัมปทานออกไป 30-40 ปี ขณะที่อาจผนวกเงื่อนไขในการก่อสร้างทางด่วนขั้น 2 บางเส้นทางเพิ่ม โดยจะสรุปและเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ด PPP) พิจารณาสัปดาห์หน้า เราประเมินเบื้องต้นมูลค่าเพิ่มจากการขยายสัมปทานจะอยู่ที่ 2-3 บาท

ประเด็นติดตาม: 28 ธ.ค. – ตัวเลขดุลการค้าไทย เดือน พ.ย., รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย / 2 ม.ค. - พ.ร.ฎ.เลือกตั้งทั่วไป มีผลบังคับใช้

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)