ดาวโจนส์ทรุดกว่า400 จุดหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ทรุดกว่า400 จุดหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (20ธ.ค.)ปรับตัวลงกว่า 400 จุด หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 464.06 จุดหรือ 1.99% ปิดที่ 22,859.6 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ร่วงลง 39.54 จุดหรือ 1.58% ปิดที่ 2,467.42 จุดและดัชนีแนสแด็กลบ 108.42 จุดหรือ 1.63 % ปิดที่ 6,528.41 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเดือนนี้ นับตั้งแต่สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2474 โดยดิ่งลงแล้ว 8% ขณะที่ทรุดตัวลงกว่า 1,250 จุดในสัปดาห์นี้

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้  ทั้งยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า โดยปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นเพียง 1 ครั้ง หรืออาจจะไม่ปรับขึ้นเลย

ขณะเดียวกัน เฟด ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.1% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.3% จากเดิมที่ 2.5%

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 216,000 ราย