ปากเป็นเอก เลขเป็นโท

ปากเป็นเอก เลขเป็นโท

กติกาเลือกตั้งยามนี้ บางฝ่ายพอใจ หลายพรรคยังคาใจ เเต่หลักๆ เเเล้วถือว่าพอกล้อมเเกล้ม อะไรๆจะได้เดินต่อไปได้ กกต. เสียรังวังไปพักใหญ่กับหลากข้อหา

เเต่ยังดีที่เลี้ยวกลับทันเพราะบางอย่างปล่อยไก่ไปหลายตัว วันหน้าจะทำอะไรก็คำนึงกันยาวๆนิดว่าจะได้ก้อนหินหรือดอกไม้

การท้าชนกับนโยบายเเละตัวบุคคลของพรรคต่างๆ เริ่มสาดสงครามน้ำลายกันเเล้ว โดยตอนนี้หลายพรรคกระทุ้งปัญหาปากท้องชาวบ้านในช่วงลุงตู่ครองเมืองว่ากินอิ่ม นอนอุ่นกันบ้างไหม? ใครอยากอยู่เเบบนี้ก็เลือกพรรคที่ “ลุงตู่” หนุน ใครไม่ชอบก็เลือกอีกรันเวย์

เศรษฐกิจเเละประชาธิปไตยคือสิ่งที่ขั้วตรงข้าม “ลุงตู่” ขยำทุกวี่วันตามหน้าสื่อเเละเวทีที่เเต่ละพรรคลงพื้นที่รับสมัครสมาชิก เเละน่าจะข้นขึ้นช่วงหลังปีใหม่

ยามนี้เป้าหลักที่ขั้วตรงข้าม “ลุงตู่” หมายตาคือตัว “ลุงตู่-4รมต.” เเห่งพปชร. รวมทั้งคีย์เเมนของกลุ่มสามมิตร ที่คล้ายเป็นจุดอ่อนที่หยิกเเละหยอกเเบบเน้นๆได้เสมอ

เเม้บางคนจะบอกว่าการเมืองก็เป็นเเบบนี้ เราไม่ผิดเเบบที่คนอื่นกล่าวหาก็นิ่งไว้ เเต่อย่าลืมว่าโลกออนไลน์ยามนี้ ข่าวสารวิ่งไวราวชั่วลัดนิ้ว หากปล่อยไว้นานสังคมจะเชื่อไปโดยปริยาย บางสิ่งบางอย่างก็ออกมาบอกกล่าวกันบ้าง มิต้องปล่อยให้เวลาทอดนาน จนใครต่อใครเชื่อกันไปเเล้ว

สงครามน้ำลาย ที่สร้างใครบางคนเเจ้งเกิดเเละยึดหัวหาดข่าวได้เเทบไม่เว้นวันนั้น บางคนก็ทำได้ดี บางคนก็ร่วงผล็อยเพราะพลาดเเบบไม่น่าจะเกิดขึ้น วันนี้หยิบมาให้ชมสักสองถึงสามตัวอย่าง

คนเเรก "เหลิม บางบอน" น่าจะจองโควตาดาว (นอก) สภาในตอนนี้ เนื่องจากสภายังมิเปิดประตู เเต่มันปิดกั้นพ่อของโต้ง-หนุ่ม-ชายไม่ได้ เพราะชายคนนี้ ออกมากระทุ้ง พปชร. ได้เเบบไม่เว้นวรรค ด้วยวิธีการหยามขั้วตรงข้ามบนหน้าสื่อตามสไตล์ที่ชินตัว

หากจำกันได้ ชายคนนี้เย้ยขั้วตรงข้ามเเบบไม่ยั้ง ตั้งเเต่ยุคทรท.ก่อตั้ง ตอนนั้น “เหลิม บางบอน” อยู่ควม.ชายลูกสามคนนี้ซัดพรรคเพื่อเเม้วเเบบไม่ยั้ง, ก่อนหน้านั้นก็เคยฟาดกับลุงจิ๋วกันมันหยด, สมัยเเยกทางจากปชป.ก็เสียดสีกันมายันวันนี้ หรือเเม้เเต่ช่วงโดนเด้งจากตำเเหน่ง ชายคนนี้ก็ตั้งโต๊ะวิเคราะห์การเมืองอัดพวกกันได้

เเต่ยามใดที่เกมเปลี่ยน “เหลิม บางบอน” ก็พลิกหน้าไพ่ได้ทันควัน จนบางครั้งยังงงๆกันว่า เหลิม บางบอนจะเอาอย่างไรกันเเน่?

ที่เเน่ๆ “เหลิม บางบอน” อย่าลืมวิเคราะห์คนโกงจำนำข้าวด้วยนะจ้ะ... เพราะบ้านเมืองเสียหายมาก ในฐานะเสนาบดีของ “ครม.ปู” เเละเป็นทีมตรวจสอบทุจริตเรื่องนี้ในยามนั้นที่บอกว่าไม่มีโกง เเต่ตอนนี้กระเเสข่าวคนโกงหลังม่านค่อยๆเผยชื่อเเละโฉมหน้า คนโตบางบอนอย่าลืมเรื่องนี้เเล้วกัน

ตัวอย่างที่สอง โบราณว่าไว้ปากเป็นเอก เลขเป็นโท เพราะวาจาเมื่อปล่อยไปเเล้วเรียกกลับคืนมาไม่ได้ฉะนั้นจะพูดอะไรก็ต้องระวัง เเต่ชายคนนี้ยิ่งพูดยิ่งไปไกลเเละพาเข้ารกเข้าพงเสมอๆ

คีย์เเมนสามมิตรควรเตือน “ภิรมย์ พรวิเศษ” ไว้บ้างก็ดี เพราะชายจากเมืองโคราชคนนี้พูดเเละทำอะไรเเต่ละคราว “เจ้านาย” ต้องสะดุ้งทุกครั้ง เเต้มไหลไปให้เพื่อนเเบบมิรู้ตัว

ชายคนนี้เเจ้งเกิดกับนักข่าวเมื่อคราวบอกว่า ภท.ควรจับมือกับพท. จนตัวเองร่วงในเมืองโคราชในปี2554 เเละพาเพื่อนโดนด่าว่าพรรคเนรคุณเเม้ว คราวนี้ก็พารมต.เรียงหินเเต้มร่วงอีก เเว่วว่าเจ้าตัวยังสบายใจเพราะเจ้านายไม่ดุ เเต่คนในพรรคกลับฉุนเเทน!

ตัวอย่างที่สาม “เสี่ยเเด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ ที่ไต่เต้าตัวเองจนได้รับการตั้งเป็นรองโฆษก พปชร. รางวัลที่ได้รับคือการตอกกลับจาก “เหลิม บางบอน” ที่หยามเเบบไม่ให้ราคาทางการเมือง เเต่ทำเเบบนี้ถือว่าโอเคกว่า “ภิรมย์”

ฝากทิ้งท้ายไว้นิด.. อย่าลืมติดตามมุมมองขั้วตรงข้ามลุงตู่ที่อ่านเกมหลังหย่อนบัตรไว้ว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรจากคีย์เเมนเเละกองหนุนของเเต่ละพรรค เกริ่นเรียกน้ำย่อยให้พอทราบ อาทิ วันมูหะมัดนอร์ มะทา, ยงยุทธ ติยะไพรัช, ภูมิธรรม เวชยชัย ฯลฯ