ทีเส็บผลักดันสร้างมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ รับเมกะอีเวนท์

ทีเส็บผลักดันสร้างมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ รับเมกะอีเวนท์

ทีเส็บส่งเสริมการสร้างมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ รองรับการเติบโตตลาดเมกะอีเวนท์และเฟสติวัลนานาชาติ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มการจัดงานเมกะอีเวนท์และเฟสติวัลนานาชาติถือเป็นรูปแบบงานที่ได้รับการยอมรับจากองค์การส่งเสริมการจัดประชุม หรือ CVB ชั้นนำจากทั่วโลกว่าเป็นงานที่สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมแก่เมืองและประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายประเทศทั่วโลกมีแนวทางการพัฒนาการสร้างแบรนด์หรือสร้างเมือง ผ่านการนำงานเมกะอีเวนท์ระดับโลกมาจัดในประเทศ ซึ่งเทรนด์ของงานประเภทเมกกะอีเวนท์และเฟสติวัลนานาชาติที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานในระดับนานาชาติ ส่วนใหญ่เป็นงานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อาทิ งานเฟสติวัลและอีเวนท์ประเภท 4.0 (Tech Show) งาน creative & lifestyle และงานเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์


“ในส่วนของประเทศไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการจัดงานเมกะอีเวนท์ได้เป็นอย่างดี จากการศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงลึกของไทยในการสร้างงานเมกะอีเวนท์ระดับโลกพบว่าไทยมีศักยภาพด้านการจัดงานที่สร้างประสบการณ์ประเภท (Experiential Event) การออกแบบ ไลฟ์สไตล์ และเทศกาลดนตรี เนื่องด้วยมีศักยภาพด้านพื้นที่และผู้จัดงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ประกอบกับไทยมีพื้นที่ที่มี Scenic Impact จำนวนมาก ทำให้งานประเภทนี้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดมา”


ดังจะเห็นได้ว่าในระหว่างปี 2561-2562 ประเทศไทยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานเมกะอีเวนท์และเฟสติวัลนานาชาติ รวม 17 งาน ครอบคลุมทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา บันเทิง และเทคโนโลยี อาทิ L'Etape Thailand by Le Tour de France, World Robot Olympiad 2018, Chiangmai Design Week 2018, Bangkok Art Bienale 2018, Thailand Art Bienale 2018, Bangkok Design Week 2019, Bangkok Entertainment Fest: Bangkok Comicon 2019 & Thailand Comicon 2019, และงาน Bangkok Entertainment Fest: Thailand Toy Expo 2019

ในปี 2560 ที่ผ่านมา จากการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ได้จากการจัดงานเมกะอีเวนท์พบว่ามีจำนวนนักเดินทางเมกะอีเวนท์ ที่เข้ามาประเทศไทยประมาณ 850,000 คน สร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับเศรษฐกิจของประเทศประมาณ 16,000 ล้านบาท
โดยในปี 2561 นี้จากเทรนด์การจัดงานเมกะอีเวนท์ที่เพิ่มมากขึ้น ได้มีการคำนวณผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการจัดงาน โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักเดินทางเมกะอีเวนท์ ที่เข้ามาประเทศไทยประมาณ 1,100,000 คน สร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับเศรษฐกิจของประเทศไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท


การสร้างการรับรู้ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการจัดงานของโลก ทีเส็บได้วางแนวทางการดึงงานระดับโลกที่มีชื่อเสียง โดยเน้นงานที่สร้างการมีส่วนร่วมของมวลชน (Mass Participation) ที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่ ตอบสนองนโยบายการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และเตรียมความพร้อมให้แก่ชุมชนในการร่วมเป็นเจ้าภาพงานขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านมาตรฐานการจัดงาน สร้างโอกาสให้เมืองและท้องถิ่นได้เรียนรู้และพัฒนาบริการและมาตรฐานการจัดงานของไทยให้เทียบเท่าระดับโลก

“ทีเส็บจึงเห็นเป็นโอกาสที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ผ่านการพัฒนาสถานที่จัดงานที่ได้มาตรฐาน รองรับการจัดงานเมกะอีเวนท์และเฟสติวัลนานาชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจและเป็นทางเลือกให้กับผู้จัดงานที่ต้องการความแปลกใหม่ จึงได้ริเริ่มการสร้างมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standards : TMVS) ประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ หรือ Special Event Venue ขึ้นในปีนี้เป็นปีแรก สำหรับหลักเกณฑ์ในการชี้วัดมาตรฐานสถานที่จัดงานกิจกรรมพิเศษนี้ จะพิจารณาในเรื่องโครงสร้างเชิงกายภาพ การสนับสนุน การจัดการอย่างยั่งยืน และในด้านความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นด้านที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยในปีนี้ ทีเส็บตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ประกอบการผ่านการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษจำนวน 20 แห่งภายในสิ้นปีนี้”

ทีเส็บผลักดันสร้างมาตรฐานสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ รับเมกะอีเวนท์