ลุ้นปิดเหนือ 1,600
SET Index วานนี้ที่ผ่านมาปรับตัวลง สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศ
โดยปัจจัยกดดันยังคงเป็นราคาน้ำมันที่ปิดลบหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน นอกจากนี้ ทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,601.48 จุด (-7.97 จุด) Volume 3.9 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -471.95 ลบ. TFEX Net +6,510 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -2,598 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผย "เงินบาทของไทย" มีแนวโน้มติดอันดับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ปรับตัวดีที่สุดในปี 2561
+"ทรัมป์"โวยเป็นเรื่องเหลือเชื่อเฟดเตรียมขึ้นดอกเบี้ย แม้ดอลล์แข็ง,ไม่มีเงินเฟ้อ
-ดาวโจนส์ปิดร่วง 507.53 จุด วิตกศก.ชะลอตัว,หุ้น"โกลด์แมนแซค์",หุ้นกลุ่มสุขภาพดิ่งหนักหลังโอบามาแคร์ขัดรัฐธรรมนูญ
-น้ำมันปิดร่วง $1.32 วิตกอุปทานน้ำมันสหรัฐพุ่ง,ศก.โลกซบฉุดอุปสงค์น้ำมันชะลอตัว
-สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลงสู่ระดับ 56 ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
-ทำเนียบขาวขู่ชัตดาวน์แน่ หากสภาคองเกรสไม่ผ่านงบประมาณสร้างกำแพงชายแดน
+/-นายกฯอังกฤษประกาศจัดการลงมติในรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit ในกลางเดือนม.ค.
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.86 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.77 บาท/US
*จับตานายสี จิ้นผิง ปธน.จีนจะกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบ 40 ปีแห่งการเปิดประเทศและการปฏิรูปเศรษฐกิจ
คาดวันนี้ดัชนี SET จะเคลื่อนไหวผันผวนรอความชัดเจนของผลการประชุม FED และกนง. ตลาดถูกกดดันตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันปิดลบ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติทยอยปิดสถานะ คาดดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,610 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- SE-ED COL มาตรการช็อปช่วยชาติ ยางรถ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
- CPALL MAKRO BJC ลุ้นมาตรการช็อปตรุษจีน
- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI
- หุ้นเข้าใหม่มีผล 24 ธ.ค. ดัชนี FTSE SET Large Cap Index = GULF
- ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index = AEONTS OSP THANI TU
- หุ้นเข้า SET50:GULF WHA และ SET100:AEONTS ANAN GOLD GULF MBK PLANB
หุ้นแนะนำพิเศษ
มุมมองจากงานสัมนา Next Crisis วิกฤตหนี้โลก 17 ธ.ค. 2561 ที่ตลท.
- Emerging Markets ปัจจัยกดดัน 1) การแข็งขึ้นของเงินดอลลาร์ 2) การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และ3) สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน จะส่งผลโดยตรงต่อประเทศในกลุ่มนี้ และยิ่งถ้าจีนมีปัญหามากขึ้น เศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากขึ้น จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งอาจทำให้เกิดวิกฤตในปี 2020 จากประเทศกำลังพัฒนา และอาจเกิดแรงกระเพื่อมที่สำคัญจากจีนในปี 2021 อันเป็นผลมาจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ (ไทยรับผลลบมากที่สุดเมื่อเทียบกับกรณีเกิดวิกฤตที่อื่น)
- Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2019 ซึ่งปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จะพักรบสงครามการค้ากับจีน ก่อนจะกลับมาเดินหน้าต่ออีกครั้งในช่วงปลายปีถัดไปก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ส่วนความหย่อนยานด้านระเบียบของสถาบันการเงินจากผลกระทบของมาตรการ QE และหนี้ภาครัฐที่เติบโตแบบก้าวกระโดด จะเป็นความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดวิกฤตในสหรัฐฯในปี 2021 (ไทยรับผลกระทบพอประมาณ ไม่น่ามากเท่ากับตอน sub-prime crisis)
- EU มีแนวโน้มจะแย่ลงเรื่อย ๆ จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้วิทยากรคาดว่าพรรคที่ใช้นโยบายประชานิยมจะเพิ่มขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดคำถามต่อภาวะผู้นำทั้งในเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ หรือแม้แต่ใน ECB เอง แต่เนื่องจากทั้งหมดเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาว จึงมีโอกาสจะเกิดเป็นวิกฤตหลังปี 2022 (ไทยได้รับผลกระทบน้อยมาก) ในระยะสั้นปัจจัยที่น่าติดตาม Brexit การเลือกตั้งในอิตาลี และการเปลี่ยนตัวประธาน ECB
หุ้นมีข่าว
ASAP ราคาปิด 3.28 บาท Bloomberg Consensus 4.45 บาท “Neutral”
· ASAP คาดผลงาน Q4/61 รับอานิสงส์ไฮซีซั่นท่องเที่ยวโตหนุนธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเห็นสัญญาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมอัตราการใช้งานรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 65-70% จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ย 50-60% ช่วยสนับสนุนการเติบโตในแง่ของผลการดำเนินงาน เนื่องจากรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นสามารถทำรายได้จากการให้บริการต่อหน่วยได้ดีกว่ากลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาว (ที่มา : IQ)
· มุมมอง Neutral : ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวสนับสนุนให้มีการใช้บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้น อย่างไรก็ตาม พอร์ตเช่ารถยนต์ระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนราว 3% ของรายได้จากการให้เช่ารถยนต์ ประกอบกับมีความเสี่ยงเรื่องการขายรถหมดสัญญาช่วงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้ขายรถได้ในราคาที่ไม่สูงมากนัก เนื่องจากความกังวลว่ารถจะตกรุ่น (รายได้จากการขายรถหมดสัญญา มีสัดส่วนราว 14.5% ของรายได้รวม) Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 109.33 ลบ. -27.49%YoY
· + ACAP"โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์"บ.ลูก ACAP เตรียมขายหุ้น IPO 90 ล้านหุ้นหลังก.ล.ต.นับ 1 ไฟลิ่ง คาดเทรด mai ต้นปี 62
· ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า “ก.พลังงาน” เปิดเวทีรับฟังความเห็นร่างแผน PDP 2018 เน้นใช้ก๊าซธรรมชาติ 53% เปิดทางเอกชนประมูลโรงไฟฟ้า IPP ภาคตะวันตก รองรับ COD ปี 66-67 อีก 1,400 MW จ่อชงแผนเข้ากพช. วันที่ 7 ม.ค. 62 ก่อนเสนอครม.อนุมัติต่อไป(ที่มาข่าวหุ้น)
· + IRPC ขายที่ดิน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ 152 ไร่ ซึ่งไม่ใช่ที่ดินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจหลักให้แก่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 325 ล้านบาท(ที่มาทันหุ้น)
· ผู้บริหาร ECF ปัดข่าวลือ ดีล STREK ล่ม ไม่เป็นความจริง!! ยันพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง เดินหน้าซื้อกิจการ STREK 51% ธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้าน IT "สวอปหุ้น" ECF ที่ 7 บาท ขยายธุรกิจตามแผน มั่นใจไตรมาส 4/2561 ฟอร์มดี ยอดขายเติบโต จับตาไตรมาส 1/2562 จ่อรับรู้รายได้โรงไฟฟ้ามินบู เมียนมา 50 MW(ที่มาทันหุ้น)
· + CGD (ราคาปิด 1.30 ซื้อเก็งกำไร) เตรียมรับรู้รายได้โปรเจกต์ใหญ่ “เจ้าพระยา เอสเตท” มูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท เริ่มทยอยบุ๊กตั้งแต่ต้นปี 2562 มั่นใจจะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองไทย พร้อมโชว์ผลงานปีหน้าโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ที่มา ข่าวหุ้น)
· ความเห็น การเริ่มโอนโครงการเจ้าพระยาเอสเตททำให้ผลประกอบการปี 62 มีแนวโน้ม พลิกมีกำไรสูงจากแนวโน้มขาดทุนในปี 61 โดยงวด 9M61 ขาดทุน 277 ลบ. แนะนำ ซื้อเก็งกำไรผลประกอบการที่มีแนวโน้ม turn around
· +/- PSH เผยปีหน้าเตรียมรุกธุรกิจปล่อยสินเชื่อบุคคล หวังเสริมแกร่งธุรกิจอสังหาฯ รองรับเกณฑ์ LTV ใหม่ของธปท. คาดมาตรการควบคุมสินเชื่อหนุนลูกค้าเร่งโอนปลายปีนี้หนุนโต 5% ชี้โอนกรรม (ที่มา ข่าวหุ้น)
· + SPA (ราคาปิด 11.30 ซื้อ ราคาเหมาะสม 16.80) จะใช้เงิน 125 ลบ.ซื้อหุ้น 76% ใน CHABA ผู้ให้บริการทำเล็บ สปามือ-เท้า ช่วยขยายฐานลูกค้า คาดจะทำรายการซื้อขายในวันที่ 1 มกราคม 2562 (ที่มา IQ)
· ความเห็น : มองว่าธุรกิจทำเล็บ สปามือ-เท้า เป็นธุรกิจที่น่าสนใจเนื่องจากใช้เงินลงทุนต่ำ และสามารถเพิ่มสาขาได้รวดเร็ว และมีระยะเวลาคืนทุนเร็วกว่า โดยในอนาคตเราคาดว่า SPA อาจต่อยอดธุรกิจทำเล็บ สปามือ-เท้า กับธุรกิจในปัจจุบันได้