สั่งล่าคนวางยา ยูนิเน็ตล่มทั้งประเทศ

สั่งล่าคนวางยา ยูนิเน็ตล่มทั้งประเทศ

“หมอธี” สั่งล่าคนวางยา ทำระบบยูนิเน็ตล่มทั้งประเทศ ระบุเกิดจากฝีมือกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ลั่นหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดนโทษวินัยร้ายแรง-ดำเนินคดีอาญา เหตุทำลายสมบัติของราชการให้เกิดความเสียหาย

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.61 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีคำสั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือ ยูนิเน็ต (UniNet) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่ามีการเขียนข้อกำหนดขอบเขตงานหรือทีโออาร์ล็อคคุณสมบัติบริษัทเข้ารับการประมูลนั้น ขณะนี้ ได้รับแจ้งจากในพื้นที่ว่าเครือข่ายยูนิเน็ตระบบล่มไม่สามารถใช้งานได้ทั้งประเทศแบบผิดปกติ ซึ่งได้รับรายงานมาว่าระบบยูนิเน็ตที่ล่มทั้งหมดนั้นเกิดจากฝีมือกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงเวลาที่ระบบมีปัญหาเป็นช่วงเวลาที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเขียนทีโออาร์ว่าโปร่งใสหรือไม่พอดี หรือเป็นการตีรวนเพื่อให้เห็นว่าตัวเองมีค่าอยู่ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว โดยมี นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ.เป็นประธานลงพื้นที่ตรวจสอบว่าสาเหตุของระบบยูนิเน็ตที่มีปัญหาทั่วประเทศในตอนนี้เกิดจากอะไร ซึ่งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงชุดนี้จะเป็นคนละชุดกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้มีการแต่งตั้งไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น หากมีการสืบข้อเท็จจริงพบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลใดก็จะต้องรับผิดชอบและหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็จะต้องโดนโทษวินัยร้ายแรงและโดนดำเนินคดีอาญาอย่างแน่นอน เพราะถือว่าทำลายสมบัติของราชการให้เกิดความเสียหาย

“จากระบบยูนิเน็ตที่มีปัญหาทำให้ผมทบทวนว่าเราจะคุ้มค่าหรือไม่หากยังใช้เครือข่ายนี้อยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบหน่วยงานที่ใช้ระบบยูนิเน็ตและมีปัญหาคือ มหาวิทยาลัย และ สถานศึกษาอาชีวะ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าเราจะเดินหน้าต่อในการใช้งานยูเน็ตหรือดำเนินการใหม่ และเท่าที่ทราบสถานศึกษาอาชีวะได้แจงให้รับทราบว่า มีวิทยาลัยอาชีวศึกษา จำนวน 60 แห่งที่จะไม่ขอใช้งานระบบยูนิเน็ต ส่วนมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการสำรวจอยู่ ทั้งนี้ผมจะตรวจสอบเรื่องยูนิเน็ตอย่างละเอียดไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดที่เสียในพื้นที่ทั้งหมด เพื่อค้นหาให้ได้ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการอยู่เบื้องหลังทำให้ระบบล่ม สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเขียนทีโออาร์นั้น ใกล้ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้น ทุกอย่างเดินตามกฎหมาย ซึ่งผมยังไม่ฟันธงและยังไม่ตั้งธงว่าใคร แต่ขอเตือนว่าหากใครทำมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ในพื้นที่ทั่วไปหมด อย่างไรก็ตามมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนเท่าไหร่ผมยังตอบไม่ได้แต่เป็นระบบเสียที่มากกว่าปกติถึง 5 เท่า ซึ่งสกอ.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” รมว.ศธ.กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้พบว่า การเขียนขอบเขตงานหรือ ทีโออาร์ บางข้อเขียนเฉพาะเจาะจงเกินไป เช่น บริษัทที่เข้าประมูลต้องมีสำนักงานอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรจาก สกอ. อาจจะเป็นการล็อกคุณสเปกหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าว โดยมี นายอำนาจ วิชยานุวัติ รองปลัด ศธ. เป็นประธาน ซึ่งมีการดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาแต่ตามหลักขั้นตอนของการสืบข้อเท็จจริงไม่เกิน 30 วัน ดังนั้น ประเด็นนี้จึงไม่มีอะไรซับซ้อนมาก