"คุณหญิงสุดารัตน์" เรียกร้อง กกต.จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เผยพรรคฯพร้อมเดินหน้าต่อสู้ ยืนยันหลักเกณฑ์บิดเบี้ยวที่ออกมาไม่เป็นอุปสรรค
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังการเปิดสำนักงานที่ตั้งสาขาพรรค ลำดับที่4จ.ภูเก็ต กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้ใช้ใบประกาศตัวผู้สมัครขนาดกระดาษA3และติดประกาศเฉพาะจุดที่ กกต. กำหนด ว่า สำหรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่กกต. กำหนดออกมานั้นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาก็โดนมาค่อนข้างมาก และคาดว่ายังจะมีอะไรที่แปลกๆ ออกมาอีก
แต่อยากถามว่าในเมื่อ กกต. มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งเพื่อคืนสู่ประชาธิปไตยให้กับประชาชนนั้น หลักการสำคัญ คือ การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้แพร่หลาย เช่น การกำหนดจำนวนหรือขนาดป้ายที่ไม่อาจจะสื่อสารได้สักเท่าไร การกำหนดหลักเกณฑ์การช้ะบบออนไลน์ในการหาเสียง, หรือที่เป็นปัญหาใหญ่ คือ บัตรเลือกตั้งไม่ต้องมีโลโก้และชื่อพรรคเป็นต้น
ถามว่าการกำหนดเช่นนี้ถือเป็นการพัฒนาหรือส่งเสริมการรับรู้ด้านประชาธิปไตยให้แก่ประชาชนมากน้อยแค่ไหน และมีเหตุผลอะไรในการทำเช่นนั้น ทั้งที่ในการจัดการเลือกควรจะเป็นที่เปิดเผย และสนับสนุนให้แต่ละพรรคการเมืองหรือผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองสามารถพูดนโยบายได้อย่างเต็มที่ และเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจอนาคตของเขาว่าจะเลือกอย่างไร ควรจะฝากความหวังไว้กับใคร แต่ปรากฏว่าครั้งนี้เหมือนจะเป็นการเลือกตั้งที่ให้ข้อมูลข่าวสารถึงประชาชนน้อยมาก และเหมือนจะเป็นความลับไปหมด ผู้สมัครลงพรรคไหนก็อย่าไปรู้ ป้ายผู้สมัครก้กำหนดให้มีขนาดเล็กๆ ซึ่งมองว่าไม่เห็นประโยชน์ในการพัฒนาประชาธิปไตยกับแนวคิดหรือหลักเกณฑ์ดังกล่าว
“ อยากให้ กกต.เป็นตัวของตัวเอง เพราะผู้ที่มีอำนาจและอยากจะหวนกลับคืนมาสู่อำนาจอีกนั้น อาจจะทำงานแค่1ใน3ของพรรคการเมือง เพราะมีวุฒิสภาอยู่แล้ว250เสียง และหาแค่เพียง126คน คือ หา1ใน3ของคนอื่นที่จะหาถือว่าได้เปรียบมากอยู่แล้ว ส่วนประเด็นว่าได้เปรียบหรือเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่นั้นงั้นนี้คงต้องขอละไว้ เพราะไม่ว่าจะอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะทำงานหนักและเดินหน้าต่อไป แต่อยากถามว่า การทำเช่นนี้ประชาชนได้ประโยชน์อะไร และเป็นการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างอยากให้ช่วยตอบสักหน่อย”
คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวถึงประเด็นการห้ามนำภาพอดีตนายกรัฐมนตรีมาใช้ในการหาเสียงว่า ประเด็นนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ดีไซน์มาเพื่อเราอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกเราพร้อมที่จะเดินหน้าทุกอย่าง แม้ว่ากติกาจะมีความยากเย็นหรือถูกเอารัดเอาเปรียบก็ไม่เป็นไร พร้อมที่จะสู้ แต่ กกต.ต้องตอบให้ได้ว่ากฎเกณฑ์ที่ออกมาและเหมือนเป็นการปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์กับการเลือกตั้งอย่างไร เป็นประโยชน์ในการออกมาใช้สิทธิ์แบบไหน และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการที่จะใช้สิทธิหรือไม่
รวมทั้งเป็นการพัฒนาประชาธิปไตยแบบไหนซึ่งควรจะตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่า กกต.ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติของผู้มีอำนาจที่จะกลับหวนคืนอำนาจ เพราะหากเป็นการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมคงไม่มีใครว่า ไม่ใช่หลักเกณฑ์บูดๆ เบี้ยวๆ อย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน รวมทั้งการไม่ใช้อำนาจในการแทรกแซงการเลือกตั้ง หรือการใช้อำนาจให้คุณให้โทษกับราชการที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ หากต้องการจะหวนคืนสู่อำนาจ และคืนสู่ประชาธิปไตยตามหลักการ ต้องไม่เอาเปรียบกัน จะทำอย่างไรให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่ใช้อำนาจรัฐและการเลือกตั้งที่ไม่ใช้เงิน ส่วนตัวเกรงว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินมากที่สุด ซึ่งเหล่านี้ กกต. ต้องทำให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย