คาดทูลเกล้าฯร่างพรก.ให้มีการเลือกตั้งส.ส.แล้ว

คาดทูลเกล้าฯร่างพรก.ให้มีการเลือกตั้งส.ส.แล้ว

รองนายกฯ ชี้ "ประยุทธ์" รู้ควรพูดอะไร ชี้กรณี "อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ" ยุบสภาแล้วหาเสียง คาดทูลเกล้าฯร่างพรก.ให้มีการเลือกตั้งส.ส.แล้ว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คาดว่ามีการนำร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ส่วนกรณีที่กกต.ระบุว่าจะรู้วันเลือกตั้งที่ชัดเจนจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 หรือไม่ ต้องรอร่างฯพ.ร.ฎ.ให้การเลือกตั้งประกาศในราชกิจานุเบกษา ไม่เกิน 4 ม.ค.62 นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะเป็นเพียงการกะเกณฑ์ของ กกต. แต่สามารถปรับได้ เพราะเขากะตามที่สะดวกของเขา โดยนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ถัดจากนั้น 7 วัน ต้องมีเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนหน้านั้น 2 สัปดาห์เป็นการเลือกตั้งต่างแดน หากนับถอยไปอีกเป็นการรับสมัคร พอคิดอย่างนี้กกต.เลยคิดว่าต้องประกาศวันที่ 4 ม.ค.ซึ่งถ้าช้ากว่านี้วันเลือกตั้งยังเป็นวันที่ 24 ก.พ.ได้ เพียงแต่ต้องปรับวันเลือกตั้งล่วงหน้ากับนอกราชอาณาจักร ซึ่งไม่ต้องต่อกัน ทับวันกันก็ได้

ส่วนการจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ให้มาอยู่ในบัญชีพรรคการเมือง เพื่อเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เริ่มทำได้เมื่อไหร่นั้น รองนายกฯ วิษณุกล่าวว่า การทาบทามทำได้เลย แต่การเสนอชื่อให้กกต.ต้องอยู่ภายใน 5 วันที่มีการเปิดรับสมัคร จะก่อนไม่ได้ หลังไม่ได้ ทั้งนี้หลังจากเสนอชื่อให้กับกกต.แล้ว ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร เพราะเป็นเพียงรายชื่อที่พรรคเสนอ ไม่ได้เป็นผู้สมัครก็เหมือนกับนายกรัฐมนตรีคนอื่นที่ผ่านมา

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการหาเสียงต้องให้พรรคพูด นายกฯจะพูดในแง่ของรัฐบาลเท่านั้น พูดอะไรก็ตามต้องตั้งต้นด้วยการเป็นรัฐบาล ไม่ใช่พรรคการเมือง เรื่องนี้ใครๆก็รู้

“ทั้งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยุบสภาและไปหาเสียง หรือแม้กระทั่งนายทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ครบเทอมแล้วก็ไปหาเสียง ซึ่งรู้ว่าต้องพูดอย่างไร แต่อาจแตกต่างตรงที่ท่านนายกไม่ได้เป็นผู้สมัคร ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค จะพูดได้ก็แค่รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ”

นายวิษณุ ยังกล่าวอีกว่า การประชุม ครม.สัญจร ยังสามารถมีได้ตามปกติไปจนถึงเดือนก.พ. ที่มีการเลือกตั้ง เพราะได้มีการกำหนดไว้ล่วงหน้านานแล้ว สามารถมีไปได้เรื่อยๆ

เมื่อถามว่า มีได้แต่อาจไม่เหมาะสมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะถึงอย่างไรครม.ก็ต้องประชุมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะประชุมที่กรุงเทพฯ หรือสัญจรไปต่างจังหวัด ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่การประชุมสัญจร อาจได้ลงพื้นที่ได้พบประชาชนเท่านั้น

“ต้องยอมรับว่าคนเป็นรัฐบาลย่อมมีโอกาสได้เปรียบ แต่จะไปเอาเปรียบไม่ได้ อยู่เฉยๆก็ได้เปรียบ เพราะมีงานทำ มีผลงาน ทั้งนี้การมองว่ารัฐบาลเอาเปรียบหรือไม่เอาเปรียบ มีเส้นแบ่งบางๆ ที่แล้วแต่ใครจะมองอย่างไร ถ้าแบ่งโดยกฎหมาย มันก็มีเส้นแบ่งชัดเจนตามกฎหมายอยู่แล้ว”นายวิษณุ กล่าว