หวั่นศก.โลกชะลอฉุดดาวโจนส์วูบเกือบ500จุด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (14ธ.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ดิ่งลงเกือบ 500 จุด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน, ยุโรป และสหรัฐ ซึ่งการที่จีนประกาศลดการเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าของสหรัฐ ไม่ได้ช่วยหนุนตลาดในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 496.87 จุดหรือ 2.02% ปิดที่ 24,100.51 จุดหรือ 10% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ร่วงลง 50.59 จุดหรือ 1.91% ปิดที่ 2,599.95 จุด ดัชนีแนสแด็ก ลบ 159.67 จุุดหรือ 2.26 % ปิดที่ 6,910.67 จุด
ทั้งนี้ จีน เปิดเผยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
ด้านนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 1.9% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.0%
นอกจากนี้ นายดรากียังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของยูโรโซนในปีหน้า สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.8%
นายดรากี ระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงในช่วงขาลง โดยมีสาเหตุจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์, ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้า, ความเปราะบางในตลาดเกิดใหม่ และความผันผวนในตลาดการเงิน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังของจีนแถลงว่า จีน จะระงับการเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 25% ต่อรถยนต์นำเข้าของสหรัฐ โดยการผ่อนผันดังกล่าวจะมีเวลา 90 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า
การดำเนินการของจีนดังกล่าวสอดคล้องกับข้อความในทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งระบุก่อนหน้านี้ว่า จีนได้ตกลงที่จะปรับลดภาษีรถยนต์สหรัฐจากระดับ 40% หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว หลังการเจรจานอกรอบการประชุมจี20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา