ธอส.เดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ขาย NPL มูลหนี้1,012ล้านบาท ให้ BAM

ธอส.เดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ขาย NPL มูลหนี้1,012ล้านบาท ให้ BAM

ธอส. เดินหน้าพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ ขาย NPL มูลหนี้ 1,012 ล้านบาท ให้ BAM รับบริหาร

วันนี้ (14 ธันวาคม 2561) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือ BAM ร่วมลงนามสัญญาจำหน่ายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ปี 2561 มูลค่าเงินต้นคงค้างรวม 1,012 ล้านบาท ช่วยให้ NPL ธอส. ลดลง 0.09% ตามแผนการพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ ด้าน BAM พร้อมรับบริหารต่อ เตรียมแจ้งให้ลูกค้ารับทราบ เพื่อเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ มุ่งเน้นวิธีการเจรจาประนีประนอม เพื่อหาข้อยุติที่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย และช่วยเหลือลูกค้าให้กลับคืนระบบเศรษฐกิจตามปกติต่อไป

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า การจำหน่ายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ BAM ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารจัดการสินเชื่อเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้พร้อมกับพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ตามที่คณะกรรมการธนาคารเมื่อเดือนกันยายน 2561 ซึ่งอนุมัติให้ ธอส. จำหน่าย NPL ให้กับ BAM คิดเป็นมูลค่าเงินต้นคงค้างรวม 1,012 ล้านบาท และช่วยให้ NPL ของ ธอส. ลดลง 0.09% ซึ่งการจำหน่าย NPL ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ธนาคารมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น พร้อมทำให้สามารถประหยัดเวลา บุคลากร ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ โดยธนาคารสามารถนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายเป็นเงินสดสำรองในกองทุนของธนาคารเพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับลูกค้าประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามพันกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้เพิ่มขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ธอส. มี NPL ก่อนจำหน่ายให้กับ BAM ในครั้งนี้จำนวน 47,435 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.28% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวมที่ 1,108,690 ล้านบาท  

ด้าน นายสมพร มูลศรีแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์  จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า การลงนามในสัญญาจำหน่ายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ระหว่าง ธอส. กับ BAM ในครั้งนี้มีภาระหนี้เงินต้น 1,012 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 2,072 บัญชี โดยลูกหนี้มีทั้งที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2548 จนถึงวันนี้ BAM มีการลงนามซื้อ NPL จาก ธอส. รวม 5 ครั้ง คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น รวมทั้งสิ้น 28,080 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 53,222 บัญชี

ทั้งนี้ ในขั้นตอนต่อไป BAM จะมีหนังสือแจ้งให้ลูกค้ารับทราบ เพื่อเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ โดยพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก และมุ่งเน้นวิธีการเจรจาประนีประนอม เพื่อหาข้อยุติที่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย  แม้จะเป็นหนี้ที่อยู่ในระหว่างการฟ้องร้องบังคับคดี BAM ก็เปิดโอกาสให้ลูกค้ากลับมาเจรจาประนอมหนี้ได้ใหม่ โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ และส่งกลับคืนระบบเศรษฐกิจตามปกติต่อไป

ปัจจุบัน BAM มี NPL ที่อยู่ในความดูแลจำนวน 88,430 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น 445,100 ล้านบาท ขณะที่มี NPA จำนวน 17,464 รายการ คิดเป็นมูลค่า 47,251 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์หลักของการรับซื้อ NPL และ NPA จากสถาบันการเงินมาบริหารจัดการ มุ่งเน้นการเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐที่จะช่วยแก้ปัญหา และลดหนี้ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงิน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต