ภท.เสนอหลักสูตรออนไลน์ 'เอไอ-บล็อคเชน' ลุยสตาร์ทอัพ

ภท.เสนอหลักสูตรออนไลน์ 'เอไอ-บล็อคเชน' ลุยสตาร์ทอัพ

"เศรษฐพงค์" โวพรรคภูมิใจไทยเสนอหลักสูตรออนไลน์ "เอไอ-บล็อคเชน" ลุยสตาร์ทอัพ และ "เอสเอ็มอี" แนวใหม่

พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ หัวหอกทีมยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลและโฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้บรรยายในหัวข้อ “IT Trends 2019 : The Year of Disruption” ณ โรงแรม สวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด ซึ่งจัดโดย IMC Institute และ Optimus (Thailand) วานนี้ (12ธ.ค.)

หลังจากการบรรยาย พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันรูปแบบของธุรกิจและรูปแบบของทักษะใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นทำให้ระบบการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบันปรับตัวไม่ทัน ดังนั้นรัฐบาลของทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องเร่งปรับทักษะของประชาชนและนักศึกษาเพื่อเข้าสู่ธุรกิจที่เปลี่ยนไปและรูปแบบงานที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งนี้เราจะเห็นได้จากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศชั้นนำ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย เกาหลีใต้และอีกหลายประเทศที่มีความตื่นตัวในการทำวิจัยและพัฒนาด้านเอไอและบล็อกเชน จนทำให้โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและการทำธุรกิจทั่วไป ไม่ว่าในภาคการเงินการธนาคารและเอสเอ็มอี เปลี่ยนไปอย่างมาก จนต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีความขาดแคลนอย่างหนัก

พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ได้กล่าวว่า ตนเองเป็นทั้งโฆษกและหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลของพรรคภูมิใจไทยซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้เคยเเถลงแนวคิดของพรรคภูมิใจไทยได้ที่จะผลักดัน “Thailand Sharing University เรียนฟรีตลอดชีวิต” และแนวคิด “กรุงเทพ สะดวก สบาย” ตามที่ประชาชนและสื่อมวลชนได้ทราบไปแล้ว ทางทีมยุทธศาสตร์ของพรรคก็ได้เสนอให้บรรจุหลักสูตรระยะสั้นที่เกี่ยวข้องกับเอไอ (AI) และบล็อกเชน (Blockchain) ในระดับต่างๆ ไม่ว่าระดับพื้นฐานเพื่อประชาชน, ระดับประถมศึกษา, ระดับมัธยมศึกษา และมหาวิทยาลัย ให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ของ Thailand Sharing University ทั้งนี้เนื่องจากสังคมในชีวิตประจำวันและการทำงานกำลังพบกับเทคโนโลยีเอไอและบล็อกเชนที่กำลังเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว

พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ยังให้รายละเอียดต่อไปว่า หลักสูตรระยะสั้นดังกล่าว จะมีกระบวนการทดสอบ โดยใช้เลข 13 หลักของบัตรประชาชน ไปจนถึงการสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือผ่านเข้าไปในระบบ Thailand Sharing University เพื่อทำการเรียนและทดสอบภาคทฤษฎี อย่างไรก็ตามหากมีภาคปฏิบัติ ผู้เรียนสามารถที่จะไปสอบตามสถานที่ที่หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบจัดสอบไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space ตามนโยบาย “กรุงเทพ สะดวก สบาย” ที่จะจัดสร้างขึ้น หรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในจังหวัดอื่นๆโดยการทดสอบภาคปฏิบัติเป็นในรูปแบบเวิร์คช็อป และโครงการขนาดเล็กที่ผู้เรียนสามารถนำเสนอเองตามความต้องการของผู้เรียน แต่ต้องสอดคล้องกับ การประยุกต์ใช้เอไอหรือบล็อกเชน เป็นต้น โดยจะมีการออกวุฒิบัตรโดยรัฐบาลเมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่กำหนดซึ่งอาจจะเป็นระยะเวลา 3 เดือน, 5 เดือนหรือนานกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความลึก และความสามารถของผู้เรียน โดยในส่วนของนักศึกษามหาวิทยาลัยสามารถที่จะนำเอาจำนวนหน่วยกิตที่ได้ไปใช้กับระบบการศึกษาของตนเองได้ด้วย

ในส่วนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญในด้านการสอน เอไอและบล็อกเชน พรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดที่จะใช้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่ถูกคัดเลือกมาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้ง แสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชนในธุรกิจดิจิทัลและไอซีที ซึ่งในขณะนี้มีหลายบริษัทระดับโลกได้เข้ามาตั้งศูนย์และทีมวิจัยและพัฒนา รวมทั้งทำธุรกิจด้านเอไอและบล็อกเชนหลายแห่ง โดย สามารถร่วมมือกันจัดทำหลักสูตรทุกหลักสูตร คู่ขนานในเวลาเดียวกัน เพื่อให้หลักสูตรดังกล่าวเกิดด้วยความรวดเร็ว ด้วยการสร้างคอนเทนท์ และระบบการเรียนการสอนที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญต้องมีการสอนที่เข้าใจง่าย เพื่อที่จะสามารถเรียนในระบบออนไลน์ได้ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งในหลายประเทศได้มีการทำระบบในลักษณะนี้ ซึ่งได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น

ทั้งนี้พื้นฐานที่หลากหลายก็จะทำให้ผู้เรียนสามารถเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ในส่วนระดับมหาวิทยาลัยนักศึกษาที่มีพื้นฐานทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ก็สามารถเลือกเรียนในหลักสูตรเชิงลึก และสามารถนำเอาวุฒิบัตรไปสมัครงาน ซึ่งในขณะนี้ในสาขาเอไอและบล็อกเชนเป็นสาขาที่ขาดแคลนอย่างมากในทุกประเทศ จึงทำให้แนวคิด “Thailand Sharing University เรียนฟรีตลอดชีวิต” จะสามารถที่จะเตรียมทักษะของคนและงานในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างมากมายจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา

พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ย้ำกับตนเองว่า สิ่งที่ทีมยุทธศาสตร์คิด “ต้องทำได้จริงและทำได้เลย” เท่านั้น