จีนเตรียมเปิดตลาดหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

จีนเตรียมเปิดตลาดหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (12ธ.ค.)ปรับตัวขึ้น ขานรับข่าวดี จีนเตรียมเปิดตลาดให้บริษัทต่างชาติมากขึ้น และดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 157.03 จุดหรือ 0.64 % ปิดที่ 24,527.27 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  เพิ่มขึ้น 14.29 จุดหรือ 0.54% ปิดที่ 2,651.07 จุดและดัชนีแนสแด็กบวก 66.48 จุดหรือ 0.95% ปิดที่ 7,098.31 จุด

หุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์ พิลลาร์พุ่งขึ้น 1.5% ในวันนี้ โดยหุ้นของบริษัททั้งสองถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ

ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า จีน เตรียมทดแทนนโยบาย “เมด อิน ไชนา2025” ด้วยนโยบายใหม่ที่จะทำให้บริษัทต่างชาติสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องการใช้นโยบาย “เมด อิน ไชนา 2025” กระตุ้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์นโยบายดังกล่าวว่าเป็นนโยบายกีดกันทางการค้า

แหล่งข่าวระบุว่า นโยบายใหม่ของจีนที่จะทดแทนนโยบาย “เมด อิน ไชนา 2025” จะทำให้จีนลดเป้าหมายในการเป็นผู้นำในภาคการผลิต โดยจีนอาจใช้นโยบายใหม่ในต้นปีหน้า ขณะที่สหรัฐและจีนจะเร่งเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน

นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังเตรียมดำเนินการปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ โดยแหล่งข่าวระบุว่า คณะรัฐมนตรีจีน เตรียมพิจารณาข้อเสนอปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ ลงสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 40%

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 18-19 ธ.ค. นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 สำหรับปีนี้ แต่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ทรงตัว และการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ซบเซาในเดือนพ.ย.