'สนธิรัตน์'ลุยตรวจร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ตั้งเป้า 1 แสนรายสิ้นปีนี้

'สนธิรัตน์'ลุยตรวจร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ตั้งเป้า 1 แสนรายสิ้นปีนี้

“สนธิรัตน์”ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่อุดรธานี เผย เตรียมเพิ่มจำนวนร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ เป็น 1 แสนราย เพื่อช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยให้มีรายได้และเพิ่มทางเลือกคนถือบัตรซื้อสินค้า หลังเสียงชาวบ้านตอบรับดี

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่จังหวัดอุดรธานี ว่า ตนได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยได้เยี่ยมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ “ร้านสิทธิ แอนด์ แมว มินิมาร์ท” ซึ่งเป็นร้านแบบใช้เครื่องรูดบัตร EDC และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ “ร้านแววผ้าฝ้าย” ที่ ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยร้านเหล่านี้เป็นต้นแบบใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐและประชาสัมพันธ์ป้ายไฟแอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ เพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับทราบว่าเป็นร้านที่รับชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐทางมือถือ สามารถที่จะเข้ามาใช้บริการได้ รวมทั้งได้เชิญชวนให้ร้านค้ารายย่อย ร้านโชวห่วย ร้านค้าในตลาดสด ร้านข้าวแกง ร้านอาหารปรุงสำเร็จ แผงลอย รถเร่ ในพื้นที่จ.อุดรธานี มาเข้าร่วมเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐด้วย

ทั้งนี้ได้ยืนยันกับประชาชนว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ ให้มีจำนวนเพิ่มเป็น 1 แสนราย จากปัจจุบันมีร้านค้าสมัครเข้ามาแล้วเกือบ 3.7 หมื่นราย ภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้เพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริโภคสินค้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้า จากการที่ผู้ถือบัตรมาจับจ่ายใช้สอย

“ขณะนี้มีการใช้จ่ายเงินในบัตรผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารับแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐแล้วเกือบ 700 ล้านบาท ซึ่งหากมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้น ก็จะมีวงเงินเพิ่มมากขึ้น เพราะในแต่ละเดือนรัฐบาลได้ใส่เงินเข้าไปในบัตรกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งวงเงินตรงนี้ จะกระจายเข้าสู่ร้านค้า ทั้งร้านค้าแบบติดตั้งเครื่องรูดบัตรและร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ โดยกระทรวงฯ อยากจะเชิญชวนให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง และเพิ่มทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้ถือบัตร”นายสนธิรัตน์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ล่าสุดถึงวันที่ 6 ธ.ค.2561 มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 70,344 ร้านค้า แบ่งเป็นร้านค้าแบบเครื่องรูดบัตร EDC จำนวน 33,448 ราย และเป็นร้านค้าแบบใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐจำนวน 36,896 ราย และมีรายได้จากการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรรวม 48,869 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตร 48,206 ล้านบาท และร้านค้าที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น ถุงเงินประชารัฐ 662 ล้านบาท

ทั้งนี้ในระหว่างการพบปะประชาชน ชาวบ้านที่ถือบัตรสวัสดิการประชารัฐได้เข้ามาขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ช่วยเหลือลดภาระด้านค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย และขอให้พิจารณาให้บัตรนี้ คงอยู่ตลอดไป เพราะมีประโยชน์จริง ที่ได้วงเงินในแต่ละเดือนสำหรับซื้อสินค้าที่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และยิ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มจำนวนร้านค้าให้เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะร้านค้ารายเล็กรายน้อย ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านมีโอกาสในการซื้อสินค้าได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซื้อหมู ไก่ ไข่ ผัก ผลไม้ รวมทั้งใช้กินข้าวแกง อาหารตามสั่งได้ด้วย ทำให้ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตน ยังได้เข้าเยี่ยมชมตลาดผ้าบ้านนาข่า โดยปัจจุบันมีร้านค้าในตลาด 120 ร้านค้า และร้านค้าในพื้นที่ตลาดโดยรอบอีกประมาณ 70 ร้านค้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ผลิตผ้าฝ้ายและผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ผ้าผืน และมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าทอมือ ซึ่งเป็นผ้าที่มีลักษณะโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะของผ้าพื้นเมืองของจังหวัดอุดรธานีและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เหมาะซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก โดยกระทรวงฯ มีเป้าหมายที่จะผลักดันและยกระดับตลาดผ้านาข่า ให้เป็น Smart Market เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางตลาดผ้าทอมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าผ้าทอมือของทุกจังหวัด ในประเทศไทย เพื่อเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศ ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะช่วยผลักดันและทำการเชื่อมโยงตลาดบ้านนาข่าเข้ากับการท่องเที่ยว เพราะตลาดอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ได้แก่ วัดนาคาเทวี ทะเลบัวแดง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อารยธรรม 5,000 ปี วัดป่าภูก้อน พระพุทธบาทบัวบก คำชะโนด เป็นต้น ซึ่งหากเชื่อมโยงกันได้ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับจังหวัดได้อีกมาก