กรมศุลโชว์จัดเก็บ2เดือนเกินเป้า10%

กรมศุลโชว์จัดเก็บ2เดือนเกินเป้า10%

กรมศุลกากรเผยยอดจัดเก็บรายได้ระยะ 2 เดือนแรกของปีงบประมาณจัดเก็บได้ 1.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้า 10% โดยรถยนต์เป็นสินค้าหลักที่นำเข้าเพิ่มขึ้น พร้อมกับอุดช่องโหว่สินค้าเกษตรลักลอบนำเข้าชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน คาดทั้งปีจัดเก็บได้เกินเป้าหมาย

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากรเปิดเผยยอดการจัดเก็บรายได้ของกรมฯในระยะ 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562ว่า ยอดการจัดเก็บเกินกว่าเป้าหมายประมาณ 10% โดยจัดเก็บได้ 1.9 หมื่นล้านบาท คาดทั้งปีจัดเก็บเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวน 1 แสนล้านบาท
เขากล่าวว่า เหตุที่กรมฯจัดเก็บภาษีได้เกินเป้าหมายในระยะเวลาดังกล่าว เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ทำให้การบริโภคในประเทศดีขึ้นตามไปด้วย โดยสินค้าประเภทรถยนต์เป็นสินค้าหลักที่มียอดการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นในระยะที่ผ่านมา ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้รวมของกรมฯให้เกินเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน กรมฯยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ โดยอุดช่องโหว่ของการจัดเก็บภาษีให้ดีขึ้น โดยเฉพาะด่านชายแดนเพื่อนบ้าน ที่อาจจะมีการลักลอบการนำเข้าสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น มะพร้าว กระเทียม เป็นต้น ทำให้ยอดการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“การอุดช่องโหว่ในสินค้าเกษตรที่อาจจะมีการลักลอบนำเข้าตามด่านชายแดนเพื่อนบ้าน นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บของกรมฯให้ดียิ่งขึ้น ยังจะช่วยป้องกันไม่ให้เกษตรกรในประเทศได้รับผลกระทบจากการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดในประเทศด้วย”
สำหรับแนวทางป้องกันการเลี่ยงภาษีการค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์สนั้น กรมฯได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจาก การค้าอีคอมเมิร์สนั้น มีแนวโน้มที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กรมฯจึงมีแผนจะติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์สินค้าในด่านศุลกากรไปรษณีย์หลักสี่ ซึ่งจะทำให้การเอ็กซเรย์สินค้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ต่อไป เราจะเอ็กซเรย์สินค้าให้ได้ 100% จากปัจจุบันไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก ปริมาณสินค้ามีเข้าเป็นจำนวนมาก ขณะที่ เครื่องเอ็กซเรย์มีไม่เพียงพอ ดังนั้น เมื่อเราได้เครื่องเอ็กซเรย์เข้ามาใช้งานแล้ว เชื่อว่า เราจะสามารถตรวจสอบสินค้านำเข้าที่มีการซื้อขายผ่านระบบอึคอมเมิร์สได้ดียิ่งขึ้น”