ปัจจัยภายนอกดีขึ้น แต่จุดเปลี่ยนยังต้องติดตามประชุม FOMC 19 ธ.ค.

ปัจจัยภายนอกดีขึ้น แต่จุดเปลี่ยนยังต้องติดตามประชุม FOMC 19 ธ.ค.

บรรยากาศการลงทุนโดยรวมปรับดีขึ้น หลังสงครามการค้ามีสัญญาณบวกของการหารือ จากการที่จีนเตรียมปรับลดภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯเหลือ 15% จาก 40%

ขณะที่ศาลแคนาดาอนุญาตให้ประกันตัว “เมิ่ง วานโจว” CFO และผู้บริหารหัวเหว่ย อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนและข้อตกลง Brexit ที่คาดว่าจะกระทบต่อการเติบโตของอังกฤษและยุโรป ยังทำให้ตลาดยังมีโอกาสเผชิญความผันผวน จุดเปลี่ยนที่สำคัญยังเป็นการติดตามการส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดหลังการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ในการประชุมวันที่ 18-19 ธ.ค. นี้

จิตวิทยาในประเทศเป็นบวกมากขึ้นหลังคสช.ใช้อำนาจม.44 ประกาศปลดล็อคการทำกิจกรรมทางการเมือง เรายังคงมองระยะสั้นหุ้นที่เน้นการบริโภคในประเทศ ที่มีปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจนทั้งจากตัวเลขการบริโภค การกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังคงมีแนวโน้มโดดเด่นเหนือหุ้นอิงปัจจัยภายนอก (อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี พลังงาน) กลยุทธ์ยังคงเน้น selective buy ธนาคาร ค้าปลีก รับเหมา และหุ้นปลอดภัย อาทิ BBL, KBANK, CPALL, ROBINS, STEC, CK, BEM, BCH, BDMS, EGCO, JASIF*, DIF*, GUNKUL*, TPCH*

Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, KTB, KBANK, STEC, CPALL, AMATA/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล TPCH*, TPIPP*, CPNREIT*, JASIF*, PSH, SPF*, EA*, BCPG / หุ้นพลังงาน ทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว PTT, PTTEP

ภาพรวมกลยุทธ์: ฟื้นตัว โดยสามารถเลือกเก็งกำไรกลุ่มที่อิงการบริโภค-ลงทุนภายในประเทศ รวมถึงหุ้นปลอดภัยอย่างกลุ่มไฟฟ้า พลังงานทดแทน ขณะที่แนะระวังการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในระยะสั้น // หุ้นแนะนำวันนี้ CK, CPALL, EGCO /เก็งกำไร WHA* (เป้า 4.60 ตัดขาดทุน 4.20), GUNKUL* (เป้า 3.60 ตัดขาดทุน 3.18)

แนวรับ 1628-1630 / แนวต้าน : 1650 จุด สัดส่วน : เงินสด 20% : พอร์ตหุ้น 80%

ประเด็นการลงทุน

พัฒนาการเชิงบวกของสงครามการค้า – ประธานาธิบดีทรัมป์ เผยความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับจีนที่มีพัฒนาการในเชิงบวก หลังรัฐบาลจีนเตรียมดำเนินการปรัลดภาษีรถยนต์นำเข้าของสหรัฐฯ

เยลเลนเตือนวิกฤตการเงินรอบใหม่ – อดีตประธานเฟดกล่าวเตือนถึงโอกาสเกิดวิกฤตการเงินรอบใหม่จากความพยายามในการลดกฎระเบียบการควบคุมดูแลตลาด รวมถึงการที่เจ้าหน้าที่ด้านการธนาคารได้ถูกลดอำนาจในการผ่อนคลายความตื่นตระหนกในตลาด

รถไฟฟ้า 3 สนามบิน – รฟท.ยังไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ชนะการประมูล โดยทั้ง 2 กลุ่มกิจการร่วมค้า คือ BSR และ เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง และพันธมิตร โดยคาดจะประกาศรายชื่อได้ 14 ธ.ค.

งบกระตุ้นเศรษฐกิจ – หลังงบช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลเตรียมโอนเงินช่วยค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ 400 บาทต่อเดือน วงเงิน 920 ล้าน วันนี้ อีกทั้งเตรียมมอบอีก 3.5 พันล้าน ค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลในวันที่ 21 ธ.ค.

TICON – ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เป็น 2.93 พันล้านบาท จาก 1.83 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 1.1 พันล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) ไม่เกิน 550.24 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO), ไม่เกิน 366.83 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไป (PO) และไม่เกิน 183.41 ล้านหุ้น เสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP)

ประเด็นติดตาม: 12 ธ.ค. – ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ย., 13 ธ.ค. – ประชุมนโยบายการเงินยุโรป (ECB meeting)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)