ร้อง 'ศปอส.ตร.' ถูกมิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊คตุ๋น15ราย สูญกว่าล้านบาท

ร้อง 'ศปอส.ตร.' ถูกมิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊คตุ๋น15ราย สูญกว่าล้านบาท

เหยื่อหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม ร้องเรียน "ศปอส.ตร." ถูกมิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊กตุ๋นเงินสูญกว่าล้านบาท เผยมีคนตกเป็นเหยื่อกว่า 15 รายแล้ว

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางฐาปนี ตระกูลพุทธรักษา พร้อมด้วยนางอรฉัตร แลงดอน ผู้เสียหายที่ถูกหลอกขายสินค้าแบรนด์เนมเข้าร้องเรียนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศปอส.ตร. กรณีถูกหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มีผู้เสียหาย 15 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท

นางฐาปนี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้สั่งซื้อนาฬิกาผ่านทางเพจเฟสบุ๊ก โดยแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น ลงประกาศขายสินค้าแบรนด์เนม จำนวน 3 หมื่นกว่าบาท โดยเมื่อตกลงซื้อขายกันแล้วจึงโอนเงินให้ ต่อมาตนได้ทวงถามถึงสินค้าคนร้ายบอกว่ากำลังจะส่งสินค้าให้ จากนั้นก็ส่งเลขพัสดุปลอมให้ เมื่อทวงถามไปคนร้ายก็บ่ายเบี่ยงก่อนจะบล็อคเฟสบุ๊คของตน เบื้องต้นตนเองได้เข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันกับที่คนร้ายอาศัยอยู่ แต่เวลาผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว กลับไม่มีความคืบหน้า ตำรวจยังไม่ออกหมายเรียกคนร้ายสอบปากคำ และปัจจุบัน คนร้ายยังคงเปิดเพจเฟซบุ๊คหลอกลวงประชาชน ขายของแบรนด์เนมอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายมีถึง 15 คน รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท ทั้งนี้เชื่อว่า น่าจะมีการทำเป็นขบวนการ เพราะจากการสอบถามผู้เสียหายรายต่างๆ พบว่ามีการโอนเงินไปให้กลุ่มคนร้ายกว่า 9 บัญชี ส่วนแรงจูงใจนั้น จากการสอบถามคนใกล้ชิดคนร้าย พบว่ามีพฤติการณ์ ติดการพนัน จึงคาดว่า น่าจะหลอกเงินไปเพื่อใช้หนี้พนัน

นางฐาปนี กล่าวอีกว่า เนื่องจากผู้เสียหายมีหลายคน ต่างคนจึงต่างไปแจ้งความในท้องที่ของตน ตำรวจบางทัองที่ก็ติดตามคดีให้ แต่ส่วนใหญ่ตำรวจเจ้าของคดีไม่ติดตามความคืบหน้าคดีให้เลย ผู้เสียหายต้องหาข้อมูลกันเอง และนำข้อมูลไปให้ตำรวจเจ้าของคดี แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทำอะไร จนรู้สึกท้อใจ ขณะที่คนร้ายก็ยังหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง มีที่อยู่ชัดเจนอยู่ในจังหวัดจันทบุรี และยังใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกรงว่าจะสร้างความเสียหายกับผู้อื่นอีก จึงมาร้องเรียนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการกับคนร้ายที่ยังลอยนวล

ทางด้าน เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป