ซีอีโอเวียตเจ็ท ติดอันดับ 1 ใน 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลก

ซีอีโอเวียตเจ็ท ติดอันดับ 1 ใน 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลก

"เหวียน ถิ เฟือง เถา" ซีอีโอเวียตเจ็ท ติดอันดับ 1 ใน 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลก นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes)

นางเหวียน ถิ เฟือง เถา ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเวียตเจ็ท ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของโลก (World’s 100 Most Powerful Women List) ของนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) โดยปีนี้ มาดามเถาติดอันดับที่ 44 เลื่อนขึ้น 11 ลำดับจากปีก่อน และยังเป็นสตรีชาวเวียดนามเพียงคนเดียวที่ได้รับการจัดอันดับ นิตยสารฟอร์บส์ประเมินว่า เศรษฐินีรายนี้มีทรัพย์สินสุทธิราว 2.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งประเมินอยู่ที่ 1.98 พันล้านดอลลาร์

นางเหวียน ถิ เฟือง เถา ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของ โซวิโก้ โฮลดิ้ง (Sovico Holdings), ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเวียตเจ็ท รวมถึงรองประธานกรรมการสามัญ เอชดีแบงก์ (HDBank) โดยมาดามเถาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขา Economic Cybernetics และปริญญาตรีสาขาสินเชื่อการเงิน

1_20

เมื่อปี ค.ศ. 2017 และ 2018 มาดามเถาประสบความสำเร็จในการจดทะเบียนเวียตเจ็ทและเอชดีแบงก์ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ การออกหุ้นระดมทุนของทั้งสองบริษัทมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ทำให้มาดามเถากลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยอันดับ 2 ของตลาดหลักทรัพย์เวียดนามในปัจจุบัน

รายชื่อสตรีผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของโลกโดยนิตยสารฟอร์บส์ในปีนี้ อันดับ 1 คือ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตามมาด้วย เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร, คริสตีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ, และ แมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเนอรัล มอเตอร์ส รวมถึง สเตซี่ย์ คันนิ่งแฮม ประธานหญิงคนแรกในรอบ 226 ปีของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1792 ก็ติดอันดับที่ 27 ของรายชื่อปีนี้

2_44

ครั้งนี้นับเป็นการจัดทำรายชื่อสตรีผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของโลกประจำปีครั้งที่ 15 ของนิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งรวบรวมสตรีทั้งในแวดวงธุรกิจ การเงิน สื่อ การเมือง สังคม/การกุศล/องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และ เทคโนโลยี

การจัดอันดับรายชื่อพิจารณาจากเกณฑ์หลายด้าน ทั้งทรัพย์สิน การปรากฏตัวผ่านสื่อ หมวดหมู่ธุรกิจ และอิทธิพลในระดับโลก โดย มอร์รา ฟอร์บส์ รองประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า บรรดาสตรีในรายชื่อต่างมีอิทธิพลที่กว้างขวางโดยตรงต่อผู้คนมากกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลกผ่านการดำเนินกิจกรรมในสาขาที่แตกต่างกัน