เปิดประวัติทูตสหรัฐประจำยูเอ็นคนใหม่

เปิดประวัติทูตสหรัฐประจำยูเอ็นคนใหม่

มีประวัติแสดงความเห็นและเผยแพร่ความเห็นเชิงต่อต้านมุสลิมช่วงเป็นพิธีกรช่องฟอกซ์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสนอตั้ง “ฮีทเธอร์ เนาเอิร์ต” โฆษกกระทรวงต่างประเทศและอดีตผู้ประกาศข่าวช่องฟอกซ์นิวส์ เป็นทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ(ยูเอ็น)คนใหม่

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า เนาเอิร์ต วัย 48 ปี อดีตผู้ประกาศและพิธีกรรายการฟอกซ์ แอนด์ เฟรนดส์ หนึ่งในสถานีโทรทัศน์ช่องโปรดของทรัมป์ จะมาทำหน้าที่แทน นิคกี ฮาลีย์ ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำยูเอ็น  โดยทรัมป์ กล่าวว่าเขาประทับใจเนาเอิร์ต เธอทำหน้าที่ได้ดีในตำแหน่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศ มีความรู้ความสามารถ ฉลาดและฉับไว และเชื่อว่าเธอจะได้รับความเชื่อถือจากทุกฝ่าย

ด้านเนาเอิร์ต ทวีตว่า เธอน้อมรับความเชื่อมั่นในตัวเธอของทรัมป์ และคาดหวังว่าจะสานต่องานของทูตฮาลีย์ต่อไป

ทั้งนี้ มีข่าวลือมาพักใหญ่แล้วว่า อดีตผู้ประกาศข่าวช่องฟอกซ์ คือตัวเก็งตำแหน่งทูตสหรัฐประจำยูเอ็น นับจากฮาลีย์ลาออกเมื่อเดือนต.ค. แม้ว่าเธอไม่มีประสบการณ์ด้านนโยบายต่างประเทศและเวทีการทูตระหว่างประเทศ นอกจากเข้ามาทำหน้าที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ตั้งแต่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

ด้านนายเอเลียต เอนเคิล ว่าที่ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ไม่สบายใจที่เธอขาดประสบการณ์ในตำแหน่งที่ต้องการการเจรจาแบบตัวต่อตัวกับบรรดาพันธมิตรที่มีความสำคัญ และกับศัตรูที่แข็งกร้าว แต่วุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้ตัดสินว่าจะรับรองเนาเอิร์ตในตำแหน่งนี้หรือไม่ อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกัน

นอกจากประสบการณ์การทูตที่เป็นประเด็นเพ่งเล็ง ว่าที่ทูตสหรัฐประจำยูเอ็นคนใหม่ มีทัศนคติร่วมกับกองเชียร์รัฐบาลทรัมป์ คือมีประวัติแสดงความเห็นและเผยแพร่ความเห็นเชิงต่อต้านมุสลิมขณะเป็นพิธีกรที่ช่องฟอกซ์

ด้วยเหตุนี้ สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม ( CAIR ) กลุ่มสิทธิพลเรือนมุสลิมใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เรียกร้องประธานาธิบดีทรัมป์ และคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา ไม่รับรองการแต่งตั้ง

ในปี 2559 เธอทวิตแสดงความเห็นต่อข่าวของนิวยอร์กไทมส์ ที่ว่า ชาวมุสลิมไม่สบายใจกับทรัมป์ ที่ขณะนั้นเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี โดยเธอทวิตว่า “คนพวกนั้นควรไปเจอไอเอส”        นอกจากนี้ เธอยังมักทวิตแสดงความเห็นข่าวบนเวบ jihadwatch.org ของโรเบิร์ต สเปนเซอร์ นักเคลื่อนไหวต่อต้านมุสลิมที่สหราชอาณาจักรห้ามเข้าประเทศเพราะทัศนคติเหยียดเชื้อชาติและเกลียดชังมุสลิม