จวก 'ประยุทธ์' จะเป็นกรรมการหรือผู้เล่น ซัด 'ประวิตร' ปมกติกาบิดเบี้ยว

ที่ตลาดอมรพันธ์ 9 เขตลาดพร้าว 8 ธ.ค.61 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพรรคการเมือง เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งและเริ่มต้นหาเสียงในวันที่ 2 ม.ค.62 ว่า ปลดล็อกวันไหนเราก็พร้อมทำงานในวันนั้น เพราะทุกวันนี้เราพยายามทำในกรอบของกฎหมาย ถ้าปลดล็อกให้ทำได้มากขึ้นเราก็จะมีโอกาสรับฟังปัญหาของประชาชนเพื่อนำมากำหนดเป็นนโยบายให้สมบูรณ์ สิ่งที่เป็นปัญหาของการเลือกตั้งครั้งนี้คือบรรยากาศดูเหมือนไม่เป็นประชาธิปไตยในการเลือกตั้ง เนื่องจากมีคำสั่งคสช.ห้ามทำโน่นนี่ทั้งที่กฎหมายเลือกตั้งก็ออกมาแล้ว ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการร่วมทำนโยบายกับพรรคซึ่งจะต้องเป็นผู้เข้าไปทำงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลอย่างไรกับกรรมการ คุณหญิงสุดารัตน์เผยควรทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง แต่กลับลงมาเป็นผู้เล่นเสียเอง วันนี้ต้องถามความชัดเจนจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะเลือกบทบาทไหน ระหว่างบทบาทการเป็นกรรมกลางตามที่กล่าวอ้างอยู่ ถ้าเลือกเช่นนั้นก็ต้องไม่มาเป็นแคนดิเดทของพรรคการเมืองจึงจะทำหน้าที่เป็นกรรมการกลางได้ แต่ถ้าจะลงสมัครเป็นผู้เสนอตัวเป็นแคนดิเดทของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งทำได้ไม่ผิดอะไรแต่ท่านไม่ควรสวมหมวกการเป็นกรรมการกลางแล้วใช้อำนาจการเป็นหัวหน้าคสช.และอำนาจนายกฯ เพราะจะทำให้เกิดข้อกังวลได้ว่าสามารถใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรอิสระ ซึ่งเราเห็นตัวอย่างได้จากสิ่งที่ไม่มีที่มาที่ไป เช่น การใช้อำนาจประธานคสช.หรือมาตรา 44 รับรองแบ่งเขตเลือกตั้งที่ผิดกฎหมายให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานก็ได้รับทราบข้อมูลซึ่งไม่แน่ชัดว่าจริงเท็จอย่างไร ในประเด็นที่หัวหน้าคสช.และนายกฯมีความเห็นว่าบัตรเลือกตั้งไม่ควรใส่ชื่อพรรคการเมือง หรือโลโก้พรรคการเมือง ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจในหลักการว่า พรรคการเมืองต้องเฟ้นหาตัวผู้สมัครเพื่อนำเสนอตัวให้ประชาชน มีคุณสมบัติดีพอให้ประชาชนเลือกและดีพอที่จะทำงานในนามพรรค แลประชาชนจะเลือก ซึ่งหลักการนี้ถูกบิดเบือนไปหมด บัตรเดียวเลือกทั้งคนเลือกทั้งพรรค เลือกทั้งนายกฯ สับสนอลม่านกันไปหมดแล้วจะยังไม่ใช่ชื่อไม่ใส่โลโก้ของพรรค ทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าผู้สมัครที่จะลงรับเลือกตั้งได้ต้องสังกัดพรรคการเมือง แปลว่ายังให้ความสำคัญกับระบบพรรคการเมือง ก็คือหลักการประชาธิปไตยทั่วไปคือพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค แต่ในบัตรเลือกตั้งบอกว่าไม่ต้องมีชื่อพรรคหรือโลโก้พรรค ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ลงสมัครอิสระเลยจะดีกว่าหรือไม่ นี่คือความสบสนซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการปฏิรูปการเมืองอย่างไร ทำให้ดีขึ้นอย่างไร

ทราบมาว่าบัตรเลือกตั้งอาจมีมากถึง 350 แบบ และอาจมีหมายเลขผู้สมัครมากกว่า 30 หมายเลข ยกตัวอย่างเขตลาดพร้าวอาจต้องมีอย่างน้อย 4 เบอร์ เพียงแค่ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็คนละเบอร์แล้ว ถึงเวลาเข้าคูหาก็ยังไม่มีโลโก้พรรคอีก จึงไม่เข้าใจในสิ่งที่ทำว่าเป็นการปฏิรูปการเมืองหรือทำเพื่อไม่ให้ประชาชนจดจำ

สำหรับกระแสเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกนั้น ตนมองเป็นเรื่องของความเหมาะสม เพราะพล.อ.ประยุทธ์สวมหมวกกรรมการกลาง เป็นหัวหน้าคสช.และนายกฯ แต่การเข้าไปยุ่มย่ามจัดการการเลือกตั้งทั้งที่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นั้น "มันไม่เหมาะสม ถ้าจะเป็นกรรมการกลางก็ไม่ควรเสนอตัวเป็นแคนดิเดท เพราะกรรมการเป็นผู้ออกกติกา เป็นผู้เป่านกหวีดกำกับเส้น กรรมการจึงไม่ควรเข้ามาเป็นผู้เล่นเสียเอง เพราะเมื่อผู้เล่นวิ่งพลาดท่าก็อาจไปออกกติกาเข้าข้างฝ่ายที่ตัวเองเป็นผู้เล่น ไม่มีกีฬาประเภทใดในโลกที่ผู้ลงแข่งเป็นทั้งกรรมการและผู้เล่น วันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขออะไรเลยนอกจากการเลือกตั้งที่ปราศจากการใช้อำนาจเข้าแทรกแซง" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯประกาศว่าพร้อมจะพูดคุยกับทุกพรรคการเมืองว่า วันนี้ขอให้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ อย่าทำให้กติกาต้องบิดเบี้ยวไปมากกว่านี้ และขอเรียกร้องให้กกต.พยายามจัดการเลือกตั้งให้ปราศจากการซื้อเสียงและการใช้อำนาจรัฐ เพื่อให้ประชาชนและนานาชาติยอมรับผลการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้มีความหวั่นวิตกว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นจะมีการใช้อำนาจรัฐและเงินมากที่สุด กกต.จึงต้องใส่ใจมากกว่านี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งวอร์รูมจับตาและตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง เพราะไม่มีใครช่วยเรา เราจึงต้องช่วยตัวเองป้องกันการทุจริต เนื่องจากคนที่กรรมการกลางไม่ได้สร้างความอุ่นใจและเข้ามาเป็นผู้เล่นอย่างเต็มตัวแล้ว

"พรรคไม่กังวลว่ากำหนดการหาเสียงเลือกตั้งและวันเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปจากปฏิทินไทม์ไลน์ที่ประกาศออกมาอีกหรือไม่ เพราะถ้าต้องเลื่อนออกไปคนที่ต้องตอบคือพล.อ.ประยุทธ์ โดยทางพรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้ง ส่วนกฎเกณฑ์จะเป็นอย่างไร ก็เอาที่สบายใจ" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว