ศาลสั่ง 'จุติ' ยื่นใหม่ ร้องระงับ 'เอสไอเอสบี' เข้าตลาด

ศาลสั่ง 'จุติ' ยื่นใหม่ ร้องระงับ 'เอสไอเอสบี' เข้าตลาด

ศาลปกครองกลางยังไม่รับคุ้มครองชั่วคราว “เอสไอเอสบี” เข้าตลาดหุ้น ชี้ขาดข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ สั่ง“จุติ” เขียนคำร้องใหม่ภายใน 11 ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับเรื่องคุ้มครองชั่วคราว กรณีที่นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในความผิดฐานกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุมีคำสั่งอนุญาตให้ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ผู้ประกอบการโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ สามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น

เนื่องจากหลักทรัพย์ เอสไอเอสบี ได้เข้าสู่กระบวนการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังพบว่าคำร้องของผู้ฟ้องไม่ครบ เนื่องจากขาดคำร้องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องเขียนคำร้องใหม่ภายในวันที่ 11 ธ.ค.2561

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา นายจุติ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ทนายความเข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ ก.ล.ต.ระงับการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของ เอสไอเอสบี ผู้ได้รับใบอนุญาตกลุ่มโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ที่จะทำการ IPO เสนอขายหุ้น SISB จำนวน 260 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 5.20 บาท จากราคาพาร์ที่หุ้นละ 0.50 บาท ในวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา

เนื้อหาในคำฟ้อง มีสาระสำคัญว่า ธุรกิจโรงเรียนเอกชนมีสิทธิพิเศษได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ และภาษีต่างๆอันเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาจากภาครัฐโดยประชาชนผู้เสียภาษี รวมถึงรัฐยังมีอำนาจในการกำกับดูแลให้โรงเรียนเอกชนต้องจัดสรรผลกำไรเพื่อนำกลับไปพัฒนาโรงเรียนตนเองด้วย

หากวัตถุประสงค์โรงเรียนเปลี่ยนไปเป็นมุ่งแสวงหาผลกำไรสูงสุดด้านการเงินให้กับผู้ถือหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ โดยอาศัยสิทธิพิเศษได้รับยกเว้นภาษีด้วยแล้ว คำสั่งของ ก.ล.ต.ให้ซื้อขายหุ้น SISB ในตลาดหลักทรัพย์อาจเป็นการขัดต่อหลักนโยบายแห่งรัฐในการพัฒนาการศึกษาตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายแม่บท รวมถึงยังอาจขัดต่อกฎหมายประกอบอื่นๆ ได้แก่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ ประกาศคณะกรรมการตลาดทุน เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ รวมถึง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นจุดริเริ่มให้เกิดการแสวงหากำไรโดยอาศัยธุรกิจการศึกษาที่จะเป็นจุดเสี่ยง จุดหักเหของชาติ ที่ส่งผลร้ายต่อการพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยได้