'ภูมิธรรม' ย้อนถามคสช. 'ใครกันแน่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ'

'ภูมิธรรม' ย้อนถามคสช. 'ใครกันแน่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ'

"ภูมิธรรม" ชี้เพื่อไทยพร้อมดำเนินการตามกม. ย้อนถามคสช. "ใครกันแน่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ"

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองกับคสช.วันนี้ว่า สิ่งที่พรรคได้ดำเนินการอยู่ขณะนี้ ชัดเจนว่าเรามีจุดยืนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และเคารพในกติกา ได้เรียนไปหลายครั้งแล้วว่าการจัดประชุมวันนี้ผู้ที่ดำเนินการจัดการประชุมไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องของกกต. ซึ่งเมื่อกกต.จัดประชุมพรรคไปเข้าร่วมทุกครั้ง ขณะนี้รัฐบาลและคสช.ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกลางอย่างแท้จริง เพราะมีรัฐมนตรีในรัฐบาล 3-4 คน ชื่อพรรคการเมืองก็ใช้ชื่อโครงการที่รัฐบาลได้ใช้งบประมาณแผ่นดินไปดำเนินการ

"ดังนั้นท่านจึงอยู่ในสถานะที่เป็นผู้ลงแข่งขันด้วย ถ้าวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีที่ไปร่วมกันก่อตั้งพรรคมานั่งร่วมกันกับพี่น้องประชาชน และพรรคการเมืองต่างๆอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน แล้วให้องค์กรอิสระซึ่งก็คือกกต.จัดการประชุมก็ไม่มีปัญหาอะไร อยากเรียนว่าท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่าท่านเคารพกติกา เเละบอกว่าคนอื่นๆในฐานะพรรคการเมืองต่างๆนั้นเป็นผู้ไม่เคารพกติกา เพราะที่ผ่านมาเรายังไม่เคยทำอะไรที่ผิดไปจากกติกาที่สังคมยอมรับเลย ตรงกันข้าม สิ่งที่พวกท่านได้ทำในการล้มล้างรัฐธรรมนูญ การละเมิดสิทธิต่างๆของพี่น้องประชาชน ผมมองว่าวันนี้สิ่งที่ท่านควรเร่งทำคือเร่งสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการ ใช้วัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น แล้วให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจเลือกอนาคตของประเทศไทย” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า หากวันนี้ที่ประชุมคสช.ร่วมกับพรรคการเมืองมีมติอะไรออกมา พรรคพร้อมยอมรับหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างที่เป็นกฎหมายที่ถูกกำหนดมาอย่างเท่าเทียมกันทุกคนก็มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าออกกฎมาอย่างยุติธรรม หรือไม่ยุติธรรม ถ้าเป็นกฎที่เกิดขึ้นมาด้วยความไม่ชอบธรรมทั้งหลาย แม้ว่าภายใต้กฎหมายที่ต้องดำเนินการ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนให้มันถูกต้อง ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ได้รับมอบหมายจากพี่น้องประชาชนที่ให้อำนาจกลับคืนมา พวกเราก็จะเปลี่ยนแปลงให้กลับสู่ภาวะปกติและยุติธรรม

“คิดว่า นายกฯต้องมีวิจารณญาณในการพิจารณาในการที่จะเสนอความเห็นเพราะท่านพูดในมุมของด้านท่านด้านเดียว และต้องไปทบทวนดูพฤติกรรมของแต่ละฝ่ายว่าใครกันแน่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ”

เมื่อถามว่ากรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตรเเละพรรคพลังประชารัฐ ระบุในช่วงเดินสายพบประชาชนเมื่อหลายวันก่อนว่า นโยบายกองทุนหมู่บ้านเป็นการสร้างภาระหนี้สิน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนอยากให้เอาผลการประเมินของกองทุนออกมาตีแผ่ เพราะตั้งแต่มีการดำเนินงานมามีการประเมินจากเวิลด์แบงก์ และทีดีอาร์ไอมีหนี้เสียเพียง 1-2% เท่านั้น เเละยังได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลกว่าเงินของกองทุนหมู่บ้านที่ผ่านมาได้มีส่วนเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนต่างๆ ดังนั้นการจะพูดอะไรที่เป็นการให้ร้ายป้ายสี หรือใช้ทัศนคติที่พยายามเอาเปรียบ หรือพยายามทำลายล้างทางการเมือง นายสมศักดิ์เคยได้ทราบและได้เห็นถึงประสิทธิภาพของกองทุนนี้แล้วว่ามีส่วนช่วยเศรษฐกิจฐานราก ถ้าวันนี้คิดว่ากองทุนหมู่บ้านเป็นอันตรายหรือไม่มีผลดี ก็เอาตัวเลขทั้งหมดมาแถลง แล้วชี้ให้เห็นความบกพร่อง

“ท่านต้องกล้าพูดความจริง อย่าพูดดิสเครดิตเพราะเป็นเรื่องที่ไม่สง่างาม”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการระบุว่าความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยตอนนี้สูงที่สุดในโลก นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นปัญหาที่พรรคและทีมเศรษฐกิจพรรคได้พูดมาตลอดว่า การที่รัฐบาลพูดถึงเศรษฐกิจภาพรวมโดยไม่ได้คำนึงถึงพี่น้องประชาชนฐานรากนั้นสร้างปัญหา การอัดฉีดเม็ดเงินลงไปยังประชาชนขิงรัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ทำอย่างชาญฉลาด แต่เป็นการใช้ผ่านกลไกต่างๆเพื่อให้บริษัทใหญ่ๆ ไม่ว่าเรื่องซิม เรื่องบัตรคนจน ฯลฯ ล้วนเป็นการไปเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทกลุ่มทุนใหญ่ๆทั้งนั้น