'สมศักดิ์' อ้างเเบ่งเขตสุโขทัย 'พปชร.' เสียเปรียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมคณะยังคงลงพื้นที่เป็นวันที่ 3 โดยวันนี้ลงพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้เทิดไทฟาร์ม ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เพื่อประชาชน และรับฟังความคิดเห็นกว่าหนึ่งพันคน โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่าการเมืองเวลานี้มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนแล้ว ดังนั้นการโจมตีกันไปมาจึงเป็นเรื่องธรรมดาจึงอยากให้ประชาชนแยกแยะว่าเรื่องใดจริงหรือเรื่องใดเป็นเพียงการตีกินทางการเมือง  เวลานี้พรรคพลังประชารัฐกำลังเร่งทำนโยบายที่เกี่ยวกับปากท้องของประชาชน อดทนรออีกนิด เชื่อว่าทุกคนจะชื่นชอบ ขณะเดียวกันตนยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เพราะที่ผ่านมาทำให้บ้านเมืองสงบสุข และยังอยากให้สานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อประชาชนต่อไป

 

นายสมศักดิ์เปิดเผยรายชื่อผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุโขทัยทั้ง 3 เขตประกอบด้วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ เขต 1 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นน้องสาวของนายสมศักดิ์, นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง เขต 2 และนายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล เขต 3 รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย

 

นายสมศักดิ์ชี้แจงถึงกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งที่หลายฝ่ายโจมตีว่าพรรคพลังประชารัฐได้เปรียบว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตเลือกตั้งเพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่บอกมีปัญหานี้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดไว้ให้จำนวนประชากรในแต่ละเขต มีความใกล้เคียงกันมากที่สุด ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า มีการนำอ.ทุ่งเสลี่ยมมาเชื่อมกับเขต 2 ทั้งๆที่มีอาณาเขตติดต่อกันเพียง 500 เมตรเท่านั้น ก่อนหน้านี้ในการเลือกตั้งปี 2554 และ ปี2557 กกต.เคยกำหนดลักษณะนี้ และส่วนตัวถือว่า เสียเปรียบ เนื่องจากต้องเริ่มกันใหม่ทั้งหมด ส่วนที่ผู้สมัครบางพรรคการเมืองออกมาโวยวาย ก็ขอให้ย้อนกลับไปดูว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเวลานี้ ควรหยุดโวยวาย และเดินหน้าลงพื้นที่ได้แล้ว

 

“ส่วนตัวเสียเปรียบเช่นกัน ไม่ได้ประโยชน์ใดใดทั้งสิ้น เพราะการลดจำนวน ส.ส. เหลือ 3 คน จึงเป็นการตัดสินใจนำ นายก อบจ. และ รองนายก อบจ. มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการหาเสียง ก็ทำด้วยความลำบาก เพราะต้องใช้เวลาหลังราชการ”